svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชวนรู้จัก "ฮุนเซน" กับประวัติก่อนก้าวขึ้นสู่ผู้นำกัมพูชาและซี้ "ทักษิณ"

21 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เรียกว่าเป็นข่าวอย่างเนื่อง สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี แม้จะได้รับรับการปล่อยตัวพักโทษไปเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ทว่า ล่าสุดมีข่าว "สมเด็จฮุน เซน" ประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และอดีตนายกฯ จะเดินทางมาเยี่ยมเยือนถึง "บ้านจันทร์ส่องหล้า"

เพื่อนซี้-เพื่อนรัก

"สมเด็จฮุน เซน" และ "ทักษิณ" ถือว่ามาความสนิทสนามกันเป็นอย่างมากจากสมัยที่ทั้งคู่ได้เป็นผู้นำประเทศเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนจากภาพสำคัญที่ครั้งหนึ่ง "ทักษิณ" ควงน้องสาว "ยิ่งลักษณ์" ไปรวมงานวันคล้ายวันเกิด "สมเด็จฮุน เซน" ถึงกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2566

ขณะเดียวกัน "ทักษิณ" ก็ยังถึงขั้นทวีตประกาศขอเลื่อนเดินทางกลับไทย จากวันที่ 10 ส.ค. ไปอีก 2 สัปดาห์ ส่วน "สมเด็จฮุน เซน" ก็มีการโพสต์คลิปความยาว 1 นาที ลงใน tiktok โดยมีภาพ "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" มาร่วมงานถึงบ้านพัก ณ กรุงพนมเปญ

ชวนรู้จัก "ฮุนเซน" กับประวัติก่อนก้าวขึ้นสู่ผู้นำกัมพูชาและซี้ "ทักษิณ"

นอกจากนี้ สำนักข่าวเอพี ยังเคยรายงานถึงความสัมพันธ์ของ "ทักษิณ" และ "สมเด็จฮุน เซน" ที่เรียกว่าใกล้ชิดกันเป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ต่างฝ่ายเรียกอีกฝ่ายว่า "godbrother" (พี่ชาย/น้องชายอุปถัมภ์)

หากให้ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของทั้งคู่ที่ดูชัดเจน คือ ช่วงปี 2552 ที่ "ทักษิณ" ยังคงลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ โดย "สมเด็จฮุน เซน" ได้แต่งตั้ง "ทักษิณ" ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา ด้านเศรษฐกิจ พร้อมประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของกัมพูชา
 

ชวนรู้จัก "ฮุนเซน" กับประวัติก่อนก้าวขึ้นสู่ผู้นำกัมพูชาและซี้ "ทักษิณ"

ซึ่งระหว่าง "สมเด็จฮุน เซน" ให้สัมภาษณ์ยังได้นำเอกสารที่รัฐบาลไทยส่งมาให้กัมพูชา ในการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนยื่นให้ "ทักษิณ" ระหว่างออกรายการเทปบันทึกภาพ ก่อนที่จะพูดให้ความมั่นสัญญาใจกับ "ทักษิณ" ว่าจะไม่มีการส่งตัวกลับไทยอย่างแน่นอน  

ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ

  1. "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ "สมเด็จฮุน เซน" ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยกษัตริย์กัมพูชา
  2. สัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะไม่นับรวมกรณีที่เป็นนักโทษทางการเมือง
  3. คดีที่ "ทักษิณ" ตกเป็นผู้ต้องหาเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ


ทว่า คล้อยหลังจากนั้นไม่นาน "ทักษิณ" ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนี้

แต่ความผูกพันไม่ได้มีเพียงเท่านั้นทางด้านธุรกิจเอง ซึ่งในปี 2551 โดย "พล.อ.เตีย บัญ" รมว.กลาโหม กัมพูชา ออกมายืนยันถึงกระแสข่าวที่มีการรายงานในไทย ว่า "ทักษิณ" เตรียมเข้ามาลงทุนในพื้นที่ อ.เกาะกง นั้น เป็นความจริง และทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แต่อยู่ระหว่างการศึกษา

ทั้งหมดเป็นภาพรวมเชิงความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีต่อกันในช่วงที่ต่างฝ่ายนั่งเป็นผู้นำในการบริหารประเทศที่นำมาเล่าพอสังเขป

มารู้จัก "สมเด็จฮุน เซน" เขาเป็นใคร

หลายคนสงสัย "สมเด็จฮุน เซน" คือใครและมีบทบาทสำคัญอย่างไร

"สมเด็จฮุน เซน" หรือชื่อเดิมคือ "ฮุน โบนาล" หรือ "ฮุน นาล" ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็น "ฮุน เซน" เกิดในครอบครัวตระกูลเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว และค่อนข้างมีฐานะนับว่าเป็นเศรษฐีที่ดินใน จ.กำปงจาม กระทั่งช่วงหนึ่งของครอบครัว ทำให้ชีวิตพลิกผันจากเคยร่ำรวยจำเป็นต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่ออกไป

กระทั่งเข้าสู่ช่วงสงครามโค่นล้มอำนาจ "เจ้านโรดม สีหนุ" เมื่อปี 2513 ทำให้ "สมเด็จฮุน เซน" ในวัย 18 ปีเวลานั้นได้เข้าร่วมกับเขมรแดง จนในปี 2518 เขาได้รับบาดเจ็บจากการรบ จนทำให้ตาซ้ายบอดสนิทเวลาต่อมา แต่ก็นับเป็นจุดเริ่มทำให้เขามีบทบาทต่อกองทัพกัมพูชา

สมเด็จฮุน เซน , ฮุน มาเนต

ก่อนที่ช่วงปี 2522 นับเป็นเวลาสำคัญที่ "สมเด็จฮุน เซน" ได้นำกำลังที่รวบรวมเข้าร่วมกับเวียดนาม เพื่อโค่นล้มเขมรแดง ภายใต้การนำของ "นายพลพอล พต" จนได้รับชัยชนะ และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงและอิทธิพลอย่างมากในกัมพูชา และเขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ จนถึง 2529 และอีกสมัยในปี 2530-2533

ชีวิตบนถนนการเมือง

"สมเด็จฮุน เซน" ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ในปี 2528 โดยสภาเลือกเขาเข้ามาต่อจากอดีตนายกฯ ที่เสียชีวิตไป กระทั่งเขาได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพปารีสในปี 2534 ทำให้หลังจากนั้นอีก 2 ปี คือในปี 2536 จึงเกิดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก และ "สมเด็จฮุน เซน" ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯอีกครั้ง โดยเป็นร่วมกับ "นโรดม รณฤทธิ์" เป็นรัฐบาลผสมชุดแรก

กระทั่งปี 2540 เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการโค่นอำนาจ "นโรดม รณฤทธิ์" ส่งผลให้เขาได้กลายเป็นนายกฯ เพียงหนึ่งเดียวเวลาต่อมา และจากนั้นเขาได้พาพรรคประชาชนกัมพูชา ชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด แม้บางช่วงจะเป็นรัฐบาลผสม

โดยในการเลือกตั้งปี 2561 "สมเด็จฮุน เซน" ได้รับชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยครอบครองเสียงข้างมากในสภา ทำให้เขาได้กลายเป็นนายกฯ ติดต่อกันถึง 6 สมัย     

ชีวิตครอบครัว

"สมเด็จฮุน เซน" ได้สมรสกับ สมเด็จกิตติวุฒิบัณฑิต บุน รานี โดยมีบุตรชาย 4 คน บุตรสาว 2 คน และบุตรสาวบุญธรรม 1 คน ได้แก่

  • ฮุน กอมซอต (เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด)
  • ฮุน มาเนต
  • ฮุน มานา
  • ฮุน มานิต
  • ฮุน มานี
  • ฮุน มาลี 
  • ฮุน มาลิส (บุตรบุญธรรม รับเลี้ยงในปี 2531 แต่ยกเลิกสถานะในปี 2550 เนื่องจากเธอเป็นเลสเบี้ยน)
logoline