
6 กุมภาพันธ์ 2567 กำลังกลายเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะกับกระบวนการได้มาซึ่งใบ สด.43 หลังมีการเปิดประเด็นพาดพิงไปยัง สส.พรรคก้าวไกล ต่อการได้ใบ สด.43 เพื่อใช้รับรองว่าได้ผ่านการเกณฑ์ทหารเป็นที่เรียบร้อย แต่เนื่องจากเอกสารกลับมีความไม่ชอบมาพากล
ก่อนที่ทาง "นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้เข้าพบกับ "นายสุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม พร้อมกับเปิดประเด็นไปถึง "สัสดี" กับการหลอกขายใบ สด.43
ล่าสุด นายสุทิน เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้สังคมพิจารณาด้วยความเป็นธรรม กรณีใบสด.43 เกี่ยวข้องกับ 2 ฝ่าย คือ ผู้ที่ไปขอและผู้ให้ ซึ่งผิดทั้งคู่ แต่ต้องดูว่าฝ่ายใดเริ่มก่อน คงไม่มีใครไปเร่เสนอขายใบสด.43 เพื่อกระทำผิด แต่อยากให้ดูว่าใครเป็นต้นทางทำผิด อย่าเบี่ยงประเด็น ซึ่งหากตรวจสอบว่าใครกระทำผิด ทางกระทรวงกลาโหมไม่เลี้ยงไว้แน่นอน แม้จะเกิดขึ้นหลายปี หรือบุคคลนั้นเกษียณไปแล้ว สามารถลงโทษย้อนหลัง ยกเลิกบำเหน็จบำนาญ และนำตัวดำเนินคดีได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หน่วยรักษาการรักษาดินแดน (นรด.) ก็ได้ตรวจสอบอยู่ทุกปี และลงโทษคนทำผิดทุกปี แต่ไม่เป็นข่าว ส่วนครั้งนี้ถ้าใครตรวจพบผู้ทำผิดให้ส่งข้อมูลมาที่กระทรวงกลาโหม เพื่อจัดการ เพราะตนมีนโยบายว่า คนที่จะมาเป็นทหารต้องเข้ามาโดยวิธีโปร่งใส เป็นโดยสมัครใจ และมีความสุข
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล อ้างว่าการขุดค้นเรื่องใบสด.43 ของ สส.ก้าวไกล เป็นฝีมือของกลุ่มไอโอ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มีมูลหรือเหตุที่มา เมื่อพรรคก้าวไกลไปตรวจสอบคนอื่น ก็ถูกคนอื่นตรวจสอบ แล้วเจอด้วย เมื่อเจอก็ต้องดำเนินไปตามกระบวนการ เพราะบ้านเรามีนักร้องเรียนเยอะ เมื่อตรวจพบก็ต้องนำไปยื่นให้ตรวจสอบ
กรณีที่บางเพจ (วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร) ในโซเชียลมีเดีย นำข้อมูลเรื่องใบสด.43 ของ สส.ก้าวไกล มาเปิดได้ เป็นเพราะได้ข้อมูลจากคนในกองทัพหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องเพราะยังไม่ได้ดู แต่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ห้ามเอาไปกลั่นแกล้งคนอื่น แต่ให้นำไอโอมาใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ประชาสัมพันธ์งานกองทัพเท่านั้น ย้ำว่าไม่มีนโยบายให้คนในกองทัพนำข้อมูลไปให้บุคคลอื่น แต่ถ้าใครนำไปทำส่วนตัว ก็ไม่อาจจะรู้ได้
ขณะที่ "นายจิรายุ ห่วงทรัพย์" โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้รับข้อสั่งการจาก รมว.กลาโหม ให้สืบหาข้อเท็จจริงของเอกสาร ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้า พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชน ว่ามีกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์ เมื่อมีผู้เสนอก็มีผู้ให้ หรือมีผู้ให้ก็มีผู้เสนอรับ โดยเปรียบเทียบว่าเป็น "กระบวนการสามเหลี่ยมอาชญากรรม" จึงขอเตือนไปยังประชาชนไม่ว่าใครเป็นหน้าม้า เสนอให้ใบสด.43 จะต้องดูต้นทางว่าผิดกฎหมายหรือไม่
"อยู่ๆ เอาใบสด.43 มาขายให้ท่าน ก็มีลักษณะคล้ายกับกรมการขนส่งทางบกที่มีหน้าม้า ไปเอาใบขับขี่ปลอมมาขาย จนกระทั่งโดนจับ" นายจิรายุกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยกับกองทัพบกพบว่าตั้งแต่ปี 2543 สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงใบสด.43 ว่าอันไหนเป็นของจริงของปลอมได้ เนื่องจากมีระบบออนไลน์ โดยเฉพาะที่จะมีคนสมัครรับราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ และต้องใช้ใบเกณฑ์ทหารไปสมัคร ซึ่งข้อมูลตั้งแต่ปี 43 จะมีความรวดเร็ว แต่หากย้อนหลังไปจากนั้นก็จะต้องมีต้นขั้ว 3 ต้นขั้ว ซึ่งจากกรณีที่ได้เป็นข่าวไป ต้นขั้วทั้งหมดยังอยู่ และในสัปดาห์หน้ากองทัพจะแจ้งความดำเนินคดี และย้ำว่าโอกาสเดียวในกรณีที่ไม่ได้ไปเกณฑ์ทหาร จะต้องไปเป็นทหารเกณฑ์อย่างเดียวตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ กรณีที่มีการสอบถามเรื่องใบสด.43 จะต้องพิมลายนิ้วมือ นิ้วโป้งหรือไม่ คณะกรรมการได้ตรวจสอบพบว่ามี 2 กรณี คือ
1.กรณีจับใบดำใบแดง คณะกรรมการจะให้พิมพ์ลายนิ้วมือ หรือลงลายเซ็นไว้ชัดเจน
2.กรณีเข้าสู่กระบวนการเกณฑ์ทหารในเขตของตนเอง แต่ผู้สมัครเต็ม ทำให้ไม่ต้องเกณฑ์
อย่างไรก็ตาม กระบวนการจะต้องไปรับเอกสารชุดเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยสาระสำคัญอยู่ที่ว่าต้นขั้วเป็นของจริงหรือของปลอม หรือมีการเข้าสู่กระบวนการเกณฑ์ทหารจริงหรือไม่ โดยรมว.กลาโหม ยังได้ฝากถึงประชาชน ไม่ว่าใครจะมาเสนอเงิน 30,000 / 10,000 / 50,000 หรือ 100,000 บาท แลกกับกระบวนการไม่เข้าสู่กระบวนการเกณฑ์ทหาร ขอให้สันนิษฐานได้เลยว่า จะได้รับใบสด.43 ปลอมแน่นอน
ขณะที่ล่าสุด "พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร" ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์" สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ที่ สน.ประชาชื่น ข้อหาปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผบ.นรด. ได้แถลงถึงการได้มาใบ สด.43 ของชายไทยที่ถูกต้อง โดยสังเกตได้จาก มีลายเซ็นจากคณะกรรมการตรวจเลือกครบทั้ง 5 คน และรับจากมือประธานกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือกเท่านั้น รวมถึงต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งหากไม่ครบตามองค์ประกอบนี้ ก็จะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้