svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทวี"ปัดดีเอสไอกลั่นแกล้งทางการเมืองปม"หมูเถื่อน"ย้ำทำตรงไปตรงมา

16 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทวี สอดส่อง" ยันดำเนินการไม่ล่าช้าปมคดี "หมูเถื่อน" ย้ำนายกฯกำชับทำอย่างตรงไปตรงมา ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานโดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ ลั่นไม่มีกลั่นแกล้งทางการเมือง ชี้ "ผู้กองธรรมนัส" เป็นห่วงปัดข่มขู่ดีเอสไอ

16 มกราคม 2567 ถือกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในเวลานี้ ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการหมายจับ 5 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับดดี "หมูเถื่อน" ซึ่ง 3 ใน 5 คน ได้เดินทางเข้าให้การต่อดีเอสไอ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

ล่าสุด "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงทำงานในเรื่องนี้ล่าช้านั้น โดยพนักงานสอบสวนก็ทำทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ได้ทำตามความรู้สึก และจริงๆ ตั้งเป็นองค์กรความร่วมมือการป้องกันปราบปรามการกระทำผิด เชิงองค์กรอาชญากรรม หรือ พ.ร.บ.องค์กรป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะความผิดฐานฟอกเงินทั้งสองประเทศจะร่วมกัน และยอมรับว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะปศุสัตว์ เพราะเอาจากต่างประเทศเข้ามา

 

"มันเริ่มตั้งแต่เป็นไข้ ASF ตอนนั้น ก็มีการปิดบัง และมีการส่งออกไปประเทศอื่น ปรากฏว่ามีการอภิปราย และคณบดีคณะสัตวแพทย์ก็ร้องว่า โรคที่พบเป็น ASF ทำให้หมูขาดตลาด จนมีการแอบนำหมูเข้ามา จึงต้องสอบทั้งหมด ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน จะใช้ความรู้สึกมาเป็นหลักฐานไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าถึงใคร เราก็ไม่ได้ดำเนินคดีทันที แต่ต้องเรียกมาสอบ และอยากให้พนักงานสอบสวนรอบคอบ โดยให้ศาลเป็นผู้ออกหมายจับ คงจะไม่มีการกลั่นแกล้งใคร" พ.ต.อ.ทวี กล่าว 

ส่วนกรณี "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมว.เกษตรและสหกรณ์ เหมือนจะไม่พอใจ เพราะส่งเรื่องไปให้นานแล้วนั้น ถือว่าไม่มีอะไร เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ก็อยากจะแก้ปัญหา และเมื้อเจอกัน ก็ไม่เห็นพูดอะไรด้วย เหมือนให้กำลังใจกันมากกว่า

สำหรับเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรี หรือนักการเมือง หรือผู้ยิ่งใหญ่ หรือไม่นั้น โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ทำอย่างตรงไปตรงมา และไม่ได้ตั้งธงว่าจับใคร

 

"ถ้าหลักฐานไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเรา แต่ประชาชนจับตามองอยู่ ทุกอย่างว่าตามพยานหลักฐาน ซึ่งเมื่อเป็นสำนวนแล้ว พนักงานสอบสวนก็ช่วยใครไม่ได้ เพราะถ้าสั่งความเห็นออกไป ก็มีอัยการเป็นผู้สั่งอีกที ถ้าสำนวนไม่รอบคอบ อัยการก็จะเข้ามา และดีเอสไอก็พยายามยึดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาสตร์จะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่บุคคลอาจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ ที่สำคัญเราอยากให้เกษตรกรรายย่อย ได้รับการคุ้มครอง เพราะถ้าเอาเข้ามาโดยหลบภาษี แล้วไม่ได้ตรวจโรคทางปศุสัตว์ ถ้าเอาไปขายในร้านหมูกะทะต่างๆ มันก็จะเป็นการทำลายตลาด" รมว.ยุติธรรม ระบุ

เมื่อถามย้ำว่า อีกนานหรือไม่ที่ประชาชนจะได้เห็นคนที่กระทำความผิดถูกลงโทษ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ก็เห็นอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีตัวผู้ต้องหามันจะบังคับเวลาว่าต้องกี่วัน พนักงานสอบสวนต้องมีระยะเวลาให้อัยการพิจารณาสำนวนอีกระยะหนึ่ง
 

 

 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การขยายผลกรณี "หมูเถื่อน" หลังส่งข้อมูลให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (16 ม.ค.) อธิบดีกรมปศุสัตว์ และฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ จะเดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ดีเอสไอ เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำเพิ่มเติม

"หลังประกาศสงครามปราบหมูเถื่อน เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2566 อธิบดีกรมปศุสัตว์คนปัจจุบัน ก็เร่งกวาดล้างจนเกือบเป็นผู้ต้องหา จึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ขอข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ โดย กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ให้นำไปใช้ อย่าไปใช้ข้อมูลจากแหล่งอื่น ที่ไม่ได้กลั่นกรองไปใช้ และนำมาผสมปะปนกัน

อย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มาห้ำหั่นกันเหมือนในอดีต ที่ดีเอสไอเคยถูกกล่าวหา เพราะกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงพี่น้อง ที่สำคัญผมได้รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการอย่างจริงจัง"

เมื่อถามว่า จะสามารถเปิดเผยผู้กระทำผิดตัวจริงได้ในเร็วๆนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับ รมว.ยุติธรรม ก่อน 

เมื่อถามว่า กระแสข่าวทางกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า ดีเอสไอ มีความล่าช้าในการดำเนินคดีเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ พ.ต.อ.ทวี และรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่า ทั้งสองหน่วยงานไม่ได้เข้าใจผิด ไม่มีข้อบาดหมางกัน แต่บางเรื่องเจ้ากระทรวงทั้งสอง ก็ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตัวเอง ส่วนตนต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกร

"เราเป็นผู้เริ่มต้นกวาดล้างและประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน หากเรื่องใดที่ล่าช้าต้องติดตามพูดคุยระดับเจ้ากระทรวงด้วยกัน และถ้ามีสิ่งใดทำลายภาคเกษตร ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ จะนิ่งเฉยไม่ได้ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทั้งนี้ ตน และ พ.ต.อ.ทวี พูดคุยกันทุกวันเข้าใจกันดี หากพบว่า คนของกระทรวงเกษตรฯ ไปกระทำการที่ล้ำเส้นก็ต้องตักเตือน และในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาล จึงมีความชอบธรรมที่จะตักเตือนหน่วยงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

อนึ่ง ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 5 คน ประกอบด้วย

1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย 
2.นายหยาง ยา ซุง
3.นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของนายหลี่)
4.น.ส.นวพร เชาว์วัย (ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่)
5.นายสมเกียรติ กอไพศาล (เป็นอดีตเลขาส่วนตัวนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน)

ทั้งหมดถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ 

1.หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243

2.หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ๆ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244

3.นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย อันเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ประกอบมาตรา 68 และมาตรา 83 ตามประมวลกฎหมายอาญา 

4.มาตรา 209 ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (15ม.ค.) นายสมเกียรติ ได้เข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอภาพหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ ขณะที่นายหยาง และน.ส.นวพร ได้เข้าให้การช่วงกลางดึกเมื่อคืนวาน โดยทั้งหมดได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

logoline