
18 ธันวาคม 2566 จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงเรื่องการยื่นลาราชการเพื่อพักร้อนตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 19 ธ.ค. หลังจบประชุมคณะรัฐมนตรีถึงช่วงเที่ยงของวันที่ 22 ธ.ค.โดยให้เหตุผลว่า เพื่อดูแลคุณแม่ และลูกทั้งสองคนเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งไม่ได้เจอกันมานานก็จะพาไปเที่ยว แต่สามารถติดต่อได้ตลอด เพราะถึงแม้จะพักร้อน ก็ยังทำงานตลอด ขอไปพักผ่อนบ้าง ไม่ต้องห่วง โลกสมัยนี้หากมีมือถือก็สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด ถือเป็นภาระของผู้นำประเทศที่ต้องแบกไว้ เพียงอาจต้องมีบางช่วงที่ต้องพักผ่อนบ้าง ไม่ได้หนีไปไหน หากมีประเด็นอะไรก็โทรศัพท์ติดต่อได้
พร้อมขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงหลังมองว่า ทำงานหนักมากในช่วงนี้ แต่มันเป็นหน้าที่ ไม่ได้เป็นอะไร มีเวลานอน 6-7 ชม. ออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย เป็นเรื่องเล็ก ไม่มีอะไร
ทั้งนี้มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0502/ว(ร) 543 เรื่อง นายกรัฐมนตรีลาพักผ่อน ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึงรัฐมนตรีต่างๆ ในคณะรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 รับทราบกำหนดการลาพักผ่อนของนายกรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2566 นั้น นายกรัฐมนตรีได้เปลี่ยนแปลงกำหนดการลาพักผ่อนดังกล่าวข้างต้น จากเดิมระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2566 เป็นระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 12.00 น. ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ข้อ 41
สำหรับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนาม โดยปรับปรุงแก้ไขมาจากระเบียบฯ ปี 2535 สมัยนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี เดิมอยู่ในหมวด 4 ข้อ 53 โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน เพียงแค่ปรับมาเป็น ข้อ 41 อยู่ในหมวด 3 ว่าด้วยการลาของข้าราชการการเมือง ระบุว่า
การลาทุกประเภทและการลาไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี และแจ้งในคณะรัฐมนตรีทราบ
สรุปคือ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ใช้ดุลพินิจตัวเองในการลาในทุกกรณี เพียงแค่แจ้งในคณะรัฐมนตรีทราบเท่านั้น ตามระเบียบ
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ไม่ปรากฏข่าวนายกรัฐมนตรีลาพักผ่อนมาก่อน ส่วนมากจะลาจะเป็นลากิจและลาป่วย
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติราชการแทนได้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 มีมติรับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 229/2566 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 หรือ สร.2 รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เคยปฏิบัติราชการแทนนายกฯแล้ว เมื่อครั้งนายเศรษฐา เดินทางไปเดินทางประชุมเอเปค ที่สหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 12-17 พ.ย.66