svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ด่วน!!ศาลอาญาสั่งจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา "ไอซ์ รักชนก" ผิดม.112

13 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ด่วน!!ศาลอาญาสั่งจำคุก 6 ปี "ไอซ์ รักชนก" โพสต์ข้อความและรีทวีต หมิ่นสถาบันฯ ผิดม.112 ไม่รอลงอาญา "ชัยธวัช" เตรียมใช้ตำเเหน่งยื่นประกัน ด้าน "แสวง" หากประกันตัวไม่ได้หลุดจากตำแหน่งสส.

13 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.683/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา10 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอกหรือไอซ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3,14

กรณีเกิดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคมถึงวันที่ 9 สิงหาคม 64 จำเลยได้บังอาจดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายในหลวงรัชกาลที่ 10 ด้วยการใช้บัญชีทวิตเตอร์ ไอซ์ หรือ@nanaicez โพสต์ ข้อความ เกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนพร้อมรูปภาพ ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 10 อันเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธ 

โดยในวันนี้ น.ส.รักชนก จำเลยเดินทางมาศาล โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม สส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อให้กำลังใจ

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะทนายความ เปิดเผยก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า หากคำพิพากษาออกมาไม่เป็นผลดี ก็จะเข้าสู่กระบวนการประกันตัว ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และที่ผ่านมาได้มีการต่อสู้คดีมาอย่างเต็มที่

ขณะที่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นคำร้องเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากวันนี้(13 ธ.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แต่ศาลไม่อนุญาต โดยตนมั่นใจในพยานหลักฐาน และคิดว่าหากเป็นไปตามข้อต่อสู้ก็มีโอกาสที่จะชนะคดี

โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ลงโทษบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันลงโทษกรรมละ 3 ปี รวมจำ

ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส. รักชนก ยังมีสีหน้ายิ้มเเย้มเเละถูกพาไปห้องควบคุมตัวโดย นายชัยธวัช กล่าวว่าจะใช้ตำเเหน่งยื่นประกัน น.ส.รักชนก ทันทีคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา

ด้าน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก (ไอซ์) สส.พรรคก้าวไกล ถูกศาลพิพากษาคดีม.112 และพ.ร.บ. คอมฯ มีโทษจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ที่อยู่ระหว่างการรอประกันตัว ซึ่งหากไม่ได้ประกันตัว อาจหลุดจากตำแหน่ง สส.ว่า อยากให้รอดูการประกันตัวก่อน ซึ่งตามกฎหมายมาตรา ม.101(6) ประกอบม. 98 (6) ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ น.ส.รักชนก โดยตรง แต่ต้องรอดูว่าจะได้ประกันตัวหรือไม่

ตนไม่อยากคิดว่า จะไม่ได้ประกันตัวแต่กฎหมายเขียนไว้แบบนั้น ซึ่งต้องดูว่าจะได้ประกันตัวหรือไม่ ค่อยมาพูดถึงรายละเอียด ยังไม่อยากพูดให้มากไปกว่านี้ ขอรอดูการประกันตัวก่อน แต่เราเข้าใจกันถูกแล้ว

สำหรับคดีดังกล่าว เริ่มเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 โดย น.ส.มณีรัตน์ เลาวเลิศ ประชาชนทั่วไป แจ้งความร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีกับผู้ใช้แอคเคาท์ทวิตเตอร์ชื่อ ไอซ์ หรือ @nanaicez เนื่องจากมีการทวีตและรีทวีตข้อความและรูปภาพจํานวน 2 โพสต์  เกี่ยวกับการผูกขาดวัคซีนโควิด 19 และแคมเปญ #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา 

นอกจากนี้ ยังได้รีทวีตข้อความจากทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า “นิรนาม” โพสต์ไว้ในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เป็นภาพป้ายข้อความที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

จากกรณีดังกล่าว กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้สืบสวนจนเชื่อว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวคือ ไอซ์ จึงออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ในชั้นสอบสวน น.ส.รักชนก ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังเสร็จกระบวนการไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอฝากขัง

ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม 2565 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อศาลอาญา ศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณาด้วยหลักทรัพย์ 100,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ในลักษณะทำนองเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหา และให้มารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ในชั้นศาล น.ส.รักชนก ให้การปฏิเสธ พร้อมสู้คดีว่า มีคนส่งรูปไปในกลุ่มไลน์ โดยในภาพที่ส่งนั้นไม่ใช่ข้อความที่ตนโพสต์ แต่มีชื่อแอคเคาท์ของตนติดอยู่ จากนั้นก็มีผู้นำภาพข้อความดังกล่าวไปแจ้งความ ซึ่งก็ได้พิสูจน์ไปว่าไม่ใช่คนทวีต

ระหว่างการพิจารณาทนายจำเลย ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) มาตรา 14 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 34 หรือไม่

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยเห็นว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา26 และมาตรา 34 วรรคหนึ่ง

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ศาลอาญานัดไอซ์ฟังคำพิพากษาในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณา 807

logoline