4 ธันวาคม 2566 วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ซึ่งเป็นครั้งแรกของรัฐบาล ที่ จ.หนองบัวลำภู ณ ห้องประชุมโรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์
โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรี จะได้เยี่ยมชมนิทรรศการของพื้นที่จ.หนองบัวลำภู ในหัวข้อต่างๆได้แก่ ภาพรวมการดำเนินงานของจังหวัดหนองบัวลำภู เกษตรเพิ่มมูลค่า จังหวัดสีขาว เมืองผ้า น่าอยู่ น่าเที่ยว เทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการความร่วมมือพัฒนาระบบการให้ความรู้ทางการเงินและมาตรการแก้ปัญหาหนี้รายย่อย
ทั้งนี้ในการประชุมช่วงแรก จะมีการหารือวาระสำคัญของรัฐบาล (Agenda Based) ระยะเวลา 1 ชั่วโมง โดยผู้เข้าร่วมประชุมฯ ในวาระนอกเหนือจากองค์ประกอบปกติของ ครม. ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด รองเลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และรองผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ ประกอบด้วย
1. ผลการประชุมบูรณาการการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนำเสนอ คนนละไม่เกิน 3 นาที โดยไม่มีภาคเอกชน
2.ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (สรุปการลงพื้นที่และข้อสั่งการของ ครม.) นำเสนอโดย สศช.
3. แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่า CEO โดย สศช.
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่จะเสนอโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดที่จะเสนอแผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี รวมถึงการเสนอก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย
โดยก่อนหน้านี้กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ได้มีการเสนอให้รัฐบาลผลักดันเป็น “ศูนย์การท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ เกษตรอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เมืองน่าอยู่” เพราะในกลุ่มนี้ มีศักยภาพแหล่งท่องเที่ยงจำนวนมาก รวมถึงมีเขตจังหวัดติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งยังสามารถพัฒนาได้อีกจำมาก
สำหรับข้อเสนอของภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อให้ครม.พิจารณา ประกอบด้วย
1. ยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ให้ไปสู่การท่องเที่ยวระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power อัตลักษณ์ท้องถิ่น อาทิ ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา อาหาร เส้นทางโรแมนติกรูท นาดีรูท และสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง
2. เร่งรัดการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อรองรับภาคการเกษตร การบริโภค และการลงทุน
3. ยกระดับโรงพยาบาลภาครัฐของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
4. ศึกษาและวางแผนโลจิสติกส์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 สู่ NeEC และเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
5. จัดทำระบบขนส่งมวลชน เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569
6. ส่งเสริมการจัดงานมหกรรมผ้าทอมือภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS Fabric Expo
7. ยกระดับรายได้เกษตรกรภายใต้การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
8. เร่งรัดปรับปรุงผังเมืองรวมและผังเมืองรวมจังหวัด เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
9. แก้ไขปัญหาและยกระดับมูลค่าเพิ่มเกษตรอุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง ไผ่ ยางพารา
10.เร่งรัดและผลักดันการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (JTMH)
โดยเมื่อแยกเป็นรายจังหวัด มีข้อเสนอของแต่ละจังหวัดดังนี้
จังหวัดบึงกาฬ เสนอ
จังหวัดเลย เสนอ
จังหวัดหนองคาย เสนอ
จังหวัดหนองบัวลำภู เสนอ
จังหวัดอุดรธานี เสนอ