svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุทิน" ลั่น แก้จนต้องเป็น "วาระแห่งชาติ" ที่เป็นไปได้ ไม่ใช่เป็นวาระถาวร

"อนุทิน" ลั่น แก้จนต้องเป็น "วาระแห่งชาติ" ที่เป็นไปได้ ไม่ใช่เป็นวาระถาวรอยู่คู่ประเทศ ยอมรับ ท้อที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่จะทำให้สำเร็จ ระบุ กุญแจสำคัญ ยกระดับชีวิตด้วยการศึกษา-สร้างโอกาสด้วยการสร้างรายได้จากนวัตกรรมความคิด และเทคโนโลยี

20 พฤศจิกายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การแก้ปัญหาความยากจน: วิถีสู่ความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดี” ที่คณะกรรมาธิการ การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสโมสรโรตารี จัดขึ้นว่า

นโยบายแก้จน ต้องเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เพราะทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ และจะต้องทำให้เป้าหมายดังกล่าว เป็นวาระแห่งชาติที่เป็นไปได้ ไม่ให้เป็นวาระถาวรอยู่คู่ประเทศ ซึ่งตนเอง เมื่อเข้ามาทำงานที่กระทรวงมหาดไทย ก็อยากจะกำจัดความยากจน เป็นพันธกิจแรกที่ตั้งใจ เพื่อให้อย่างน้อยชาวบ้าน พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

พร้อมกล่าวยอมรับว่า ในบางครั้งก็รู้สึกท้อ ที่จะต้องไปพูดว่า ต้องแก้ปัญหาความยากจนให้ได้ โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ แต่การกระทำดีขึ้นแค่ไหนหรือไม่ ก็อยู่ที่การวางแผนการทำงาน และการให้การศึกษาแก่ประชาชน เพราะแม้ประชาชนจะมีปัจจัย 4 ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ทั้ง อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และปัจจัย 5 หลายคนบอกว่า คือมือถือ แต่แท้จริงแล้วปัจจัยที่ 5 คือ “การศึกษา”

ต้องสนับสนุนนโยบายขั้นพื้นฐานของประชาชน เปิดโอกาสให้ยกระดับชีวิตด้วยการศึกษา และสร้างโอกาส ด้วยการสร้างรายได้ด้วยนวัตกรรมความคิด และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทในประเทศไทย ซึ่งหากจิ๊กซอว์เหล่านี้ ถูกต่อให้ครบ ก็น่าจะประสบความสำเร็จในการลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจน พร้อมกับสร้างความเจริญเติบโตให้เกิดขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ ช่วงชีวิตของคนยาวนานมากขึ้น มีอายุยืนขึ้น ทำให้โลกกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย หากรัฐบาลไม่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะเป็นภาระ และทำให้ประสิทธิภาพโอกาสต่าง ๆ การทำงานต่าง ๆ ถูกฉุดลง ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ดีแก่เยาวชน และการดำรงชีวิตต่อในภายภาคหน้า 

นายอนุทิน กล่าวต่อ ตามสถิติอาชีพเกษตรกรรม เป็นผู้มีรายได้น้อยที่สุด ดังนั้น การแก้ไขปัญหาของกระทรวงมหาดไทย จะคำนึงถึงการมีที่ดินทำกิน และการสร้างแหล่งน้ำ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต และจะใช้นวัตกรรม เพื่อมาบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเชื่อว่า จะแก้ปัญหาความยากจนได้ และได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีแนวทางการทำงาน มีเป้าหมายเดียวกันแล้ว จึงเชื่อว่า จะใช้เวลาเท่าอายุรัฐบาลทำงานร่วมกันและจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะดำเนินการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย 

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนรวย เพราะความรวยของคนต่างกันมีหลายระดับ พร้อมย้ำว่า นโยบายแก้จนเป็นวาระแห่งชาติ ต้องสนับสนุนนโยบายขั้นพื้นฐานของประชาชน เปิดโอกาสให้ยกระดับชีวิตด้วยการศึกษาและสร้างโอกาสด้วยการสร้างรายได้ ด้วยนวัตกรรมความคิดและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทในประเทศไทย ซึ่งถ้าจิ๊กซอว์เหล่านี้ถูกต่อให้ครบ ก็น่าจะประสบความสำเร็จในการลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจน พร้อมกับสร้างความเจริญเติบโตให้เกิดขึ้นต่อไป

พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า กระทรวงมหาดไทยในยุคที่ตนเองรับผิดชอบ พร้อมให้การสนับสนุน ทั้งนโยบาย และอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เพื่อทำให้ความมุ่งหวังของทุกคน เข้าสู่เป้าหมายให้มากที่สุด และพร้อมยืนยันจะทำให้สำเร็จให้ได้