svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เช็กมาด "เศรษฐา" กับบทบาทผู้นำไทยบนเวทีโลกครั้งแรก

เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับภารกิจแรกบนเวทีนานาชาติ ของ" นายกฯเศรษฐา" ในการประชุม สมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางการจับจ้องของนานาประเทศ

การขึ้นเวทีระดับโลกครั้งแรกของนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้นำประเทศไทย หลังการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ในวงประชุม SDG Summit ประจำปี 2023  โดยนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวถ้อยแถลง ประกาศความมุ่งมั่นของไทยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของทุกกลุ่ม และความร่วมมือเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนโดยตรง

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit)  และขึ้นกล่าวถ้อยแถลงเป็นครั้งแรกบนเวทีระดับนานาชาติ

สำหรับการประชุมครั้งนี้ไทยถูกจับตาเป็นพิเศษ หลังเพิ่งได้นายกรัฐมนตรี จากการเลือกตั้งมาแบบหมาดๆ ซึ่งก่อนหน้าเคยถูกมองเป็นประเทศที่มีผู้นำมาจากการทำรัฐประหาร สืบทอดอำนาจ

สะท้อนจากผลการจัดอันดับประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ของสื่ออังกฤษ The Economist ในปี 2022 ไทยถูก จัดอยู่ในกลุ่ม "ประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์" ได้อันดับที่ 55 จากทั้งหมด 167 ประเทศทั่วโลก

นายกรัฐมนตรีพบหารือจิอานนี อินฟานติโน  ปธ.สหพันธ์ ฟุตบอล นานาชาติ (FIFA)

ภายหลังจากการทำหน้าที่ตลอดทั้งสัปดาห์ของการประชุม นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับผู้นำหลากหลายประเทศ ทั้ง โจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังมีโอกาสได้พบปะหารือกับผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง บ.Microsoft  บ.Tesla SpaceX บ.Starlink ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจแทนคนไทย เพราะได้รับแต่เสียงชื่นชม

 

"ผมมีความภูมิใจ ไม่ใช่ในฐานะนายกฯ แต่เป็นในฐานะคนไทย คนชื่นชมประเทศไทยมาก ในการให้ความสำคัญกับสภาวแวดล้อมของโลก ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องการเงินอย่างเดียว คนไทยเรามีส่วนร่วมทุกคนที่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ตรงนี้เป็นความภาคภูมิใจ ผมมาในฐานะผู้นำประเทศ ทำหน้าที่เสนอสิ่งดีๆที่มีอยู่ในประเทศไทย" นายเศรษฐา กล่าว 

นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองว่า การประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งนี้ มีความคึกคัก และเปลี่ยนไปตามโครงสร้าง การที่ผู้นำของไทย ถูกเลือกตั้งเข้ามา ถือว่าได้เปรียบรัฐบาลที่อยู่มานาน รวมถึงภาพลักษณ์ สไตล์การทำงานของ นายกฯเศรษฐา ที่สบายๆคล่องตัว แบบนักธุรกิจ  ทำให้สามารถฝ่าด่านผู้นำหลายร้อยคนจากหลายประเทศขึ้นมาโดดเด่นได้

ขณะที่ท่าทีของนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ก็ค่อนข้างมีความมั่นใจ ได้รับการตอบรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และทีมงานก็สบายๆเดินทางแบบง่ายๆ แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องค่าใช้จ่าย และจำนวนทีมงานที่ร่วมคณะ รวมทั้งสื่อสมัยใหม่ที่ไป 

รศ.ดร.ปณิธาน ให้คะแนนภาพท่าทีการตอบรับคนไทยในสายตาต่างชาติ ถือว่าได้คะแนนค่อนข้างสูง อยู่ที่ 8-9 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน  

"ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจในเวทีที่ยากๆแบบนี้ ในเวทีที่มีผู้นำระดับโลกที่เป็นที่รู้จัก ไทยเราก็ถือได้ว่าสามารถชิงพื้นที่ของไทยให้กลับมาได้มากพอสมควร" รศ.ดร.ปณิธาน

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ

ทั้งหมดนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีของไทย ในการฟื้นภาพลักษณ์ กอบกู้ความเชื่อมั่น จากสายตานานาประเทศ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ “เศรษฐา” กับการพาไทยเชื่อมกับทั่วโลก

นายกรัฐมนตรี หารือกับ นายอีลอน มัสก์ และผู้บริหารของ Tesla, SpaceX และ Starlink ผ่านระบบการประชุมทางไกล