ระยอง วันที่ 22 กันยายน 2566 ที่สมาคมประมงจังหวัดระยอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและพบปะกลุ่มประมงและเกษตรกรชาวจังหวัดระยอง เพื่อรับทราบปัญหาการทำกินภาคประมงและภาคเกษตรในพื้นที่ โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับ
ซึ่งประเด็นการตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหาครั้งนี้ คือการประกอบการประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน และอาชีพประมง การจัดการที่ดิน สปก. และโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC
ในโอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวแก่ประชาชนจำนวน 10 ราย พร้อมมอบถุงยังชีพกรมชลประทาน 10 ราย มอบเงินสนับสนุนโครงการชุมชนประมงเข้มแข็ง 4 ราย และมอบเอกสาร สปก.4-01 แก่เกษตรกร 20 ราย
ขณะเดียวกันได้รับมอบน้ำปลา จำนวน 5,000 ขวด จากสมาคมประมงจังหวัดระยอง สมาคมอวนล้อมจับปลากระตัก สื่อมวลชนออนไลน์ และประมงไทย เพื่อนำไปช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ก่อนจะร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพง จำนวน 500,500 ตัว ลงทะเลระยอง
ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พี่น้องภาคประมงและเกษตรกรชาวจังหวัดระยองมีปัญหาเรื้อรังมานาน โดยเฉพาะภาคประมง จะมีการแก้กฎหมายประมงที่เป็นกำแพงกั้น กระทบกับการทำมาหากิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งกำชับมาเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องภาคประมงทั้ง ประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน และ ประมงชายฝั่ง
โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาขับเคลื่อนการแก้ไขกฎหมายประมง โดยเฉพาะความขัดแย้งในการทำประมงพาณิชย์ ประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้าน ซึ่งตนเองได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนที่นักวิชาการกังวลว่าจะกระทบ กฎ IUU นั้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้คำนึงวิถีชีวิตชาวประมงเป็นลำดับแรกด้วย
"ส่วนเรื่องที่พี่น้องเกษตรกรถือครองที่ดิน สปก.4-01 ที่มีอยู่ 36 ล้านไร่ทั่วประเทศ จะเปลี่ยนที่ดิน สปก.ให้เป็นโฉนดให้ได้ รวมทั้งที่ดิน สปก.ที่อยู่ในพื้นที่ EEC ด้วย จะนำเข้าร่วมโครงการเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์และเกิดรายได้" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว