21 กันยายน 2566 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคก้าวไกล พร้อม สส.ภายในพรรค แถลงข่าวกรณีศาลฎีกาพิพากษานางสาวพรรณิการ์ วาณิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ดูไร้ประโยชน์ต่อประชาชน เพราะ สส.กลุ่มนี้ทำตัวเหมือนเป็นลูกน้อง ไม่สมกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องมีจริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไป แต่กลับให้ร้ายทั้งที่มีคดีมาตรา 112 ติดตัวอยู่
“มันสง่างามหรือไม่ วันนี้เป็น สส.แล้ว พอได้รับหมายศาลเรียกให้ขึ้นศาลก็เลื่อนศาล ไม่ไปศาล แบบนี้มันใช่หรือไม่ ในอดีตไม่เคยมี สส.คนไหนต้องคดีมาตรา 112 แล้วได้เป็น สส. วันนี้รู้สึกแปลกใจว่า การออกมานั่งแถลงข่าว ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับประชาชนเลย ประชาชนเขาให้คุณเข้าไปทำงานในสภา คุณควรจะมีจิตสำนึกว่า คุณต้องทำอะไร หลายคนบ่นให้ผมฟังว่า สส.เขตพรรคก้าวไกลบางคน ผมไม่รู้ว่าคน กทม.ได้ประโยชน์อะไร” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า หากไม่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ คนๆนั้นก็ไม่สมควรจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ออกกฎหมายบังคับใช้ผู้อื่น เช่นเดียวกับมาตรา 112 ที่ออกมาเพื่อไม่ให้ใครมาให้ร้าย แต่หากใครพูดจาดูหมิ่น ก็สมควรได้รับโทษ ทั่วโลกก็มีกฎหมายลักษณะนี้ เหมือนคำว่าระเบิดที่ห้ามพูดในสนามบิน มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ดังนั้นการออกมาแถลงข่าวเรื่องนี้ของ สส.พรรคก้าวไกล ไม่เป็นการสมควร เนื่องจาก พรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว ทั้งยังไม่เกิดประโยชน์ต่อพ่อแม่น้องประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว