19 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 ก.ย. 66
โดยที่ร่วมเดินทางไปกับนายกฯ อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยมีกำหนดเดินทางถึง นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ช่วงเช้ามืดของวันที่ 19 กันยายน 2566 (เวลาที่สหรัฐอเมริกาช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง) หรือเวลาไทยประมาณ 14.30 น
สำหรับภารกิจของนายกฯ ครั้งนี้ ถือว่าเป็น “การปฏิบัติภารกิจนอกประเทศครั้งแรก” ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้พบหารือกับผู้นำต่างประเทศ ผู้นำองค์การระหว่างประเทศ บุคคลสำคัญ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งผ่านกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
ภารกิจต่างประเทศแรกของนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อ เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศไทย (renewing confidence) พร้อมเป็นการเปิดตัวนายกรัฐมนตรีในเวทีสหประชาชาติ ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างประเทศที่มีระดับผู้นำมาร่วมมากที่สุด ในฐานะผู้นำรัฐบาลใหม่ของไทยที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย สะท้อนถึงเสถียรภาพ ศักยภาพ และความพร้อมของไทยในการเดินหน้าสานสัมพันธ์ขับเคลื่อนพลวัตความร่วมมือกับนานาประเทศ
นอกจากนี้ยังจะถือเป็นการย้ำความเชื่อมั่น และการสนับสนุนของไทยต่อระบอบพหุภาคี ที่มีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง และความมุ่งมั่นของไทยในการมีส่วนร่วม ในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ที่มีบทบาทสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ โดยมีส่วนร่วมกำหนดวาระสำคัญของโลกที่สมดุล และสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติ ในการรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
พร้อมกับผลักดันความร่วมมือของประชาคมโลก ในการเร่งขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เพื่อรับมือกับวิกฤตช่องว่างการพัฒนา แก้ไขปัญหา ความเหลื่อมล้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมความสมดุลในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่ง แวดล้อม เสริมสร้างความเป็นอยู่อย่างสันติ ความอยู่ดีกินดี สภาพแวดล้อมที่ดี และสุขภาพที่ดีถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน (Accelerating the SDGs for peace, prosperity, and sustainability for all)
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการหารือระหว่างผู้นำไทยและเยอรมัน ซึ่งแม้ว่าตารางจะยังไม่ออกมาชัดเจน แต่ก็มีความพยายามที่จะหารือเรื่องการจัดซื้อเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เนื่องจากการจัดซื้อดรือดำน้ำจากจีนนั้น ไม่มีเครื่องยนต์
สำหรับกำหนดการที่เกี่ยวข้องกับองค์การสหประชาชาติ
ทั้งนี้ นายกฯ จะเน้นย้ำในบทบาทของไทยด้านความร่วมมือ เพื่อต่อสู้กับความท้าทายระหว่างประเทศ ในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ จะได้พบหารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของต่างประเทศ เพื่อยืนยันแนวทางด้านนโยบายของไทยที่สนับสนุนการค้าการลงทุน เช่น