svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เคลียร์ดรามา "นพ.ชลน่าน" แจง "Shopping รพ.ได้ตามใจ" เป็นภาษาการตลาด

"นพ.ชลน่าน" แจง "Shopping รพ.ได้ตามใจ" เป็นภาษาการตลาด เจตนายกระดับการเข้าถึงให้ทันท่วงที ระบุ ไม่อยากให้ใช้คำนี้ ชี้ เป็นการดูถูกสภาวะความเป็นมนุษย์ ไม่มีใครอยากป่วย

14 กันยายน 2566 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดแรกวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า “ให้ตั้งคณะทำงานยกระดับหลักประกันสุขภาพ ไม่ต้องมี รพ.ประจำสิทธิ์ หากชอบใจ มั่นใจ รพ.ไหนไปได้ทันที หรือช็อปปิ้ง รพ.ได้ตามใจ”

โดย นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า คำว่า “ช็อปปิ้ง” เป็นภาษาตลาดและการสื่อสารก็ไม่ว่ากัน แต่ในระบบเราให้สิทธิประชาชนเข้าถึงบริการได้ทุกที่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย คนเราไม่มีใครอยากป่วย แต่จำเป็นจริงๆ ที่ต้องเข้า รพ. ซึ่งก็ต้องเข้าด้วยความมั่นใจว่า ทั่วถึง เป็นธรรม และทันท่วงที เป็นหลักที่เราวางเอาไว้ การใช้บัตรประชาชนใบเดียว สามารถเข้าถึงสถานบริการได้ทุกที่ทุกแห่งก็เป็นการเปิดโอกาสลดภาวะเจ็บป่วย ภาวะแทรกซ้อนรักษาได้อย่างทันท่วงที ตรงนี้เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนเรื่องกระจายการเข้าถึง เมื่อระบบเราอยู่ตัว ข้อมูลเราพร้อม จะทำให้การดูแลสุขภาพประชาชนทั่วถึง โดยเฉพาะปัจจุบันมีการเคลื่อนย้ายแรงงานจำนวนมาก

นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข พร้อม นพ.โอภาส  ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีสมโภชองค์ "พระสัมพุทธเมตตาประชารักษ์" อัญเชิญประดิษฐาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บุคลากรสาธารณสุข และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

เมื่อถามว่า ยังจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมี รพ.ประจำหรือ รพ.ตามสิทธิ์  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รพ.ทุกแห่งที่เข้าอยู่ในโครงการจะถือว่าเป็น รพ.ตามสิทธิ์ เดิมเราใช้ รพ.เป็นเสมือนกับการขึ้นทะเบียนสิทธิ์ในแต่ละที่แต่ละแห่งเป็นการเฉพาะ แล้วมีระบบส่งต่อ พอระบบเราเสถียร ทุกที่ในเครือข่ายถือเป็น รพ.ที่จะใช้สิทธิ์ได้ การขึ้นทะเบียนก็อาจจะมีสถานบริการมารองรับเพื่อให้มีตัวตนชัดเจน แต่ว่าไปใช้ตามโอกาส

“อย่าเรียกว่าช็อปปิ้งเลย ไม่อยากให้ใช้คำนี้ เพราะเป็นภาษาตลาด และเป็นการดูถูกสภาวะความเป็นมนุษย์ ไม่มีใครอยากป่วย ทุกคนอยากมีสุขภาพดี”

เมื่อถามว่า จากคำแถลงที่ว่า ให้ประชาชนสะดวก ไม่ใช่ให้ผู้ให้บริการสะดวก จะทำให้ผู้ให้บริการน้อยใจหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ภาระงานบุคคลการทางการแพทย์มากอยู่แล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นภาษาของสื่อมวลชนใช้ นโยบายของตน สะดวกทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ การกระจายงานไม่ไปกองที่ใดที่หนึ่ง ก็จะทำให้ผู้ให้บริการมีขีดความสามารถ มีศักยภาพในการให้บริการได้อย่างสะดวก ถ้าเราจัดระบบได้ดี แทนที่จะไปกองจุดใดจุดหนึ่งจะมีการกระจายตัวที่ดี เพราะฉะนั้น ความสะดวกของผู้ให้บริการและผู้รับบริการต้องควบคู่กันไป ไม่ทิ้งด้านใดด้านหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการขับเคลื่อนเรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชนมากขึ้นด้วย

นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข พร้อม นพ.โอภาส  ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีสมโภชองค์ "พระสัมพุทธเมตตาประชารักษ์" อัญเชิญประดิษฐาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บุคลากรสาธารณสุข และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

เมื่อถามถึง กรณีมีบุคลากรทางการแพทย์เคยเรียกร้องว่า ให้มีการร่วมจ่ายบางรายการหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ระบบเดิมมีความไม่ชัดเจน ระบบเดิมเราวางเงื่อนไขว่า เสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง ดังนั้น สิทธิการเข้ารับการดูแลรักษาในโครงการ 30 บาทต้องมีมาตรฐานที่เท่ากัน ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่เรามอบให้ สิ่งที่นอกเหนือจากนั้นก็มาอยู่ในการพูดคุยกัน เราจะไม่ปิดกั้นความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ นิ้ว 5 นิ้วยังไม่เท่ากัน ถ้าจะมีศักยภาพเติมเต็มเรื่องคิ้ว หนวดต่างๆ ถามว่าหนวดจำเป็นหรือไม่ บางคนจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นไม่มีในธรรมชาติ มันต้องมีความจำเป็นในแต่ละมุมมองก็จะไปดูในรายละเอียด แต่ไม่ลดละสิทธิประโยชน์ที่เป็นมาตรฐานสูงสุดที่เรามอบให้

เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้มีการร่วมจ่ายในบางรายการหรือไม่  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อย่าพูดคำว่า “ร่วมจ่าย” เดี๋ยวจะเข้าใจผิดอีก เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีข้อถกเถียงกัน เพียงแต่เข้าใจผิดในเรื่องของคำพูดก็เป็นประเด็นแล้ว แค่เราใช้คำว่า "30 บาทพลัส" ก็บอกว่าจะจ่าย 30 บาทอีกหรือ เรียนว่านี่เป็นชื่อโครงการ เป็นแบรนด์ ยี่ห้อ ไม่ได้มีการร่วมจ่าย 30 บาท วินาทีนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการร่วมจ่าย แต่วิธีการ การให้บริการแต่ละระดับ แต่ละกลุ่ม เราจะไปดูในรายละเอียด เพราะสิ่งที่เราเติมเต็มเข้ามาในนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ คือ ทำให้กระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่สามารถหารายได้ให้แก่ประเทศได้ โดยไม่กระทบสิทธิประชาชน

เคลียร์ดรามา "นพ.ชลน่าน" แจง "Shopping รพ.ได้ตามใจ" เป็นภาษาการตลาด