
19 สิงหาคม 2566 "พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร" อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า วาทะ "ทหารแก่ไม่เคยตาย" มาจากการที่ชายใดเมื่อเป็นทหาร ครั้นพ้นจากราชการแล้ว ก็ยังคงเป็นทหารกองหนุนต่อตลอดไป เกียรติยศชายชาติทหาร ที่ยังคงอยู่ในใจสังคมเสมอมา ดั่งวาทะ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" มันเป็นผลสืบเนื่องมาจากระบบเกียรติศักดิ์ที่ได้ รวมถึงการตระหนักว่า "เสียชีพอย่าเสียสัตย์" ได้สร้างเสริมติดตัวคนๆนั้นมาตั้งแต่ครั้งที่อยู่ในราชการทหารนั่นเอง
ทั้งนี้ แต่ยามที่เขามีพฤติกรรมตระบัดสัตย์เกิดขึ้น เกียรติยศที่สั่งสมมานั้น มันก็สูญสิ้นไปในบัดดล คงเหลือแต่ความเป็นคน..ัดซบ เฉกเช่นที่ได้เกิดขึ้นกับกลุ่ม 3ป. มาแล้ว คำพระได้พร่ำสอนให้ตระหนักเสมอว่า "คนโกหกไม่ทำชั่วเป็นไม่มี" เพราะการโกหกก็คือการทำชั่วผิดศีลไปแล้ว คนโกหกจึงพร้อมจะทำสิ่งที่หลอกลวง ทรยศหักหลังได้เสมอ
"หากคนประเภทนี้หลุดรอดเข้ามาบริหารประเทศจึงไม่มีเครดิตในสายตาของประชาชน แต่ที่เลวร้ายหนักก็คือไม่มีเครดิตกับผู้นำของต่างประเทศที่เขามีอารยะกันอีกด้วย ไม่มีใครเขาอยากคบค้าสมาคมด้วย เมื่อจะมานำพาประเทศ จึงมีแต่จะพาประเทศจมดิ่งลง" พล.ท.ภราดร ระบุ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ มาถึงจุดที่ประชาชนไม่ไว้วางใจตัวผู้แทนของเขา เพราะเห็นพฤติกรรมว่าจะทำสวนทางกับเจตจำนงสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับพวกตน เมื่อภาพรัฐบาลใหม่ฉายการทรยศประชาชนครบสมบูรณ์แบบเมื่อใด เมื่อนั้นอิทธิฤทธิ์ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง จะลุกฮือแผลงฤทธิ์ทันที จนรัฐบาลจะล้มคว่ำลงในระยะเวลาอันสั้น จงคิดใหม่มาทำตามเจตจำนงประชาชนเสียเถิด ดั่งภาษิต "ช้าๆได้พร้าเล่มงาม"