
เพียงแค่ปักษ์แรกของสิงหาคม อุณหภูมิการเมืองก็เริ่มร้อนระอุ จนเรียกได้ว่าเป็นช่วง "โมงยามระทึก!" เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวมากกว่าแต่เตรียมโหวตนายกฯ และแต่ละขั้นตอนมีจุดเปลี่ยน "จุดพลิกผัน" ได้ทุกจังหวะ
โดย 1 ในประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา คือ การนัดพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่ามติที่ประชุมรัฐสภาเมื่อ 19 ก.ค.66 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ลงมติว่า การเสนอชื่อนายกฯให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวต ถือเป็นญัตติ หากเสียงไม่พอ ให้ถือว่าญัตติตกไป ไม่สามารถเสนอชื่อเดิมซ้ำได้ในสมัยประขชุมเดียวกัน โดยอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41
โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมกัน ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ เพียงวันเดียวก่อนถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้
ซึ่งเมื่อมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ของผลการพิจารณา จะพบว่ามีความเป็นไปได้ 3 ทาง คือ
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้จึงยังต้องรอลุ้น ว่าจะออกมาในทิศทางใด แต่แน่นอนว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนี้จะมีผลเชื่อมโยงไม่เพียงแต่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ยังอาจรวมไปถึง การเดินทางกลับประเทศไทย ของอดีตนายกฯคนไกล นายทักษิณ ชินวัตรด้วย
เพราะหากวันที่ 4 ส.ค. การเลือกนายกฯผ่านไปได้เรียบร้อย แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยชนะโหวต อดีตนายกฯ อาจเดินทางกลับ
แต่หากวันที่ 4 ส.ค.ไม่มีการโหวตนายกฯรอบ 4 หรือมีโหวต แต่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยถูกตีตก อดีตนายกฯ ทักษิณ อาจตัดสินใจเลื่อนกลับไทย