ทำความรู้จัก "ประภาศรี" ส.ว.หญิงหนึ่งเดียวที่ "เห็นชอบ" ให้ "พิธา" เป็นนายกฯ

17 กรกฎาคม 2566 ภายหลังการโหวตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเสนอเพียงชื่อเดียว คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 1 ที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนกว่า 14 ล้าน แต่ผลที่ออกมาคือ สมาชิกรัฐสภาลงคะแนน เห็นชอบนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง เท่ากับว่ามติที่ประชุมรัฐสภาไม่เห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังขาดอีก 52 เสียงเพื่อให้ได้ 376 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาตามที่กฎหมายกำหนด

ในวันดังกล่าวทุกสายตาจับจ้องไปที่สมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว.ว่า จะมีจำนวนเท่าไรที่ขานชื่อให้กับนายพิธา เพราะก่อนหน้าวันโหวตมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมถึงงดออกเสียง ในขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่าได้เสียงส.ว.ให้การสนับสนุนครบแถมต้องหาสำรองกันเปลี่ยนใจ แต่ผลออกมาปรากฏว่า ส.ว.ที่สนับสนุนนายพิธา มีเพียง 13 เสียง

และหนึ่งในนั้นคือ นางประภาศรี สุฉันทบุตร ส.ว.หญิงหนึ่งเดียว ที่ออกตัวยืนยันหนักแน่นก่อนวันโหวตด้วยซ้ำว่า จะโหวตให้นายพิธา ตามมติของประชาชน พร้อมยืนข้างประชาธิปไตย และในวันโหวตก็เป็นไปเช่นนั้น

จากการขานชื่อในรัฐสภา “เห็นชอบค่ะ” ในช่วงเย็นเมื่อวันที่ 13 ก.ค. นับจากวินาทีประวัติศาตร์นั้น ส.ว.ประภาศรี ก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ จนเจ้าตัวออกมาโพสต์ระบุว่า ไปที่ไหนชื่นใจเสมอ เมื่ออยู่เคียงข้าง “ประชาชน” สมัยนี้คนไทยตื่นตัว เเละสนใจ เรื่องการเมืองกันมาก นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราได้เรียนรู้ ประชาธิปไตยเเละการปกครองประเทศไปด้วยกัน

ช่วงนี้ไปที่ไหนก็มีคนเข้ามาคุย ไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ก็มีคนมาทักทาย เมื่อเช้าไปร่วมงานเเต่งงานที่ยโสธร ชาวยโสธรจำนวนมากมาขอบคุณที่ "เห็นชอบ"กับเสียงข้างมาก ไปเดินออกกำลังกายก็มีคนมาทักทายเเละขอบคุณ วันก่อนไปโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่ก็มาขอถ่ายภาพด้วย

ตอนนี้มาที่สนามบินอุบลราชธานี ก็ได้รับการดูเเลช่วยเหลืออย่างดียิ่งจากเจ้าหน้าที่สนามบินเเละยิ้มๆทักทายอย่างจริงใจ นั่งรอหน้า Gate ก็มีน้องๆเเละรุ่นลูก มาทักทาย "สว.ประภาศรี ใช่ไหมคะ" ขอถ่ายภาพด้วยได้ไหม ตอบว่า"ได้เลยค่ะลูก”

มาทำความรู้จัก ส.ว.คนดัง “ประภาศรี สุฉันทบุตร”

สกุลเดิม “วิริยพันธ์” ปัจจุบันอายุ 71 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนมาสมรสกับ นพ.หาญ มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 4 คน

การทำงานในวุฒิสภา

เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา , ที่ปรึกษาและ กมธ.การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา

(คลิกดูรายละเอียดการทำงานในสภาทั้งหมด)

โดยได้แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ว. เมื่อปี 2562 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 962,123,671 บาท ไม่มีหนี้สิน

นักธุรกิจด้านการแพทย์

เธอเป็นนักธุรกิจด้านการแพทย์ เจ้าโรงพยาบาลหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เครือนายแพทย์หาญ” ตามชื่อของสามี “นพ.หาญ สุฉันทบุตร”

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท หาญ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจโฮลดิ้งในเครืออาณาจักรโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ โดยจดทะเบียนบริษัทแห่งนี้ เมื่อ 16 มิ.ย. 2565 ทุนปัจจุบัน 43 ล้านบาท นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 29 เม.ย. 2566 ประภาศรี สุฉันทบุตร ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9993% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ นายก้องไกล สุฉันทบุตร(บุตร) ถือ 0.0005% นายหาญ สุฉันทบุตร ถือ 0.0002% ยังไม่มีรายงานงบการเงิน

ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า เมื่อ 7 ก.ค. 2566  ส.ว.ประภาศรี เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 12 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอย่างน้อย 2 แห่งคือ

บริษัท โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จำกัด

จดทะเบียนเมื่อ 12 มิ.ย. 2533 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่  ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร แจ้งประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาล นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 28 เม.ย. 2566 บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9997% ก้องไกล สุฉันทบุตร ถือ 0.0002% และหาญ สุฉันทบุตร ถือ 0.0001% นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 334,402,493 บาท กำไรสุทธิ 78,462,771 บาท

บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2558 ทุนปัจจุบัน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.มุกดาหาร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมโรงพยาบาล(ยกเว้นโรงพยาบาลเฉพาะทาง) นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 มี.ค. 2566 บริษัท หาญ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 50.0001% นางประภาศรี  ถือรองลงมา 38.2844% นายพรพัฏ วิริยพันธ์ ถือ 6.3682% แพทย์หญิงกลางดาว ชีรณวาณิช ถือ 2.2092% นายพรเทพ วิริยพันธ์ ถือ 1.5691% กัญญารัตน์ อินทร์แก้ว ถือ 1.5691% นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 159,069,943 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,429,441 บาท

19 ก.ค.นับเป็นวันประวัติศาสตร์การเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ที่จะเป็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน จะเสนอชื่อ “พิธา” หรือจะเป็น “เศรษฐา ทวีสิน” หรือจะมีผู้เสนอชื่ออื่นร่วมด้วยหรือไม่ อย่ากระพริบตา