
11 มิถุนายน 2566 นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี อายุ 64 ปี ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐเขต 2 จ.อำนาจเจริญ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการสำนักงานพรรค บ้านหนองคลอง ต. โคกกลาง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เนื่องจากเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 6 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา ตนได้รับเชิญจากนายกเทศบาลเสนางคนิคม ให้ไปร่วมงานเปิดและปิดกีฬาเทศบาล ณ.สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลเสนาง ซึ่งมีนักกีฬามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า ขณะที่ตนได้ไปถึงกองอำนวยการการจัดงาน ได้รับเชิญไปนั่งร่วมโต๊ะนายกเทศบาลและแขกอื่นๆที่มาร่วมงาน จากนั้นตนได้เดินออกไปเพื่อส่งแขกและทักทายผู้มาร่วมงาน พอกลับเข้ามามี นางญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 2 มานั่งแทนที่ตน และได้ทักทายถามข่าวคราวตามปกติและขอร่วมถ่ายรูปกับว่าที่ ส.ส.เพื่อเป็นการแสดงความยินดี
แต่แทนที่จะได้รับการตอบรับ แต่นางญาณีนาถได้แสดงอาการโกรธเคืองกล่าวต่อว่า พี่จะถ่ายรูปไปร้องกกต. อีกใช่ไหม พี่ร้องหนูต่อกกต.ใช่ไหม ย้ำหลายครั้งตนได้ปฏิเสธไป แต่นางญาณีนาถ ยังกล่าวย้ำว่า หนูชนะคะแนนพี่ถึง 4 หมื่น ควรจะให้มันจบๆกันไป ตนได้ตอบโต้ไปว่า หากพี่จะร้องก็เป็นสิทธิ์ของพี่ ทำให้นางญาณีนาถยิ่งโกรธแค้น เดินเข้ามาเงื้อมือจะตบตน ท่ามกลางสายตาของผู้มาร่วมงาน
ขณะเดียวกันได้มีชายหญิง 2 คนทราบชื่อต่อมาคือ นางฐิติภัทร คณาโรจน์ ผู้ติดตามว่าที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยและนายณัฐวุฒิ ศรีจันทร์ รองนายก อบจ.อำนาจเจริญ เข้ามาร่วมกันกระชากแขนซ้ายและไหล่ขวาตน จนทำให้ตนล้มพาดเก้าอี้ก้นกระแทกพื้นจนได้รับบาดเจ็บ พบว่าข้อมือซ้าย ไหล่ขวา เข่า ซ้าย ขวา บั้นเอว มีรอยฟกซ้ำ
หลังจากเลิกงานตนเห็นว่า การกระทำของนางญาณีนาถ ร่วมกับพวกปฎิบัติตนไม่เหมาะสมและตนก็มีหน้าตา ชื่อเสียงในสังคมไม่น่าจะถูกกระทำในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างตนได้เข้าพบแพทย์ตรวจร่างกาย โดยแพทย์ลงความเห็นว่าถูกทำร้ายร่างกายรักษาภายใน 7- 10 วัน
จากนั้นตนเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุรไชย ไวยะเลิศ พนักงานสอบสวน สภ.เสนางคนิคม ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ โดยการขู่เข็นดูหมิ่นเยียดหยามผู้อื่น และตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวอีกว่า สำหรับนางณัฐวุฒิเคยมีเรื่องแจ้งดำเนินคดีทำร้ายร่างกายกับตนมาก่อนในปีที่แล้ว จนศาลตัดสินปรับ 500 บาทแต่ก็ยังมาก่อเหตุอีก
ผู้สื่อข่าวได้พยามยาโทรศัพท์ถึงนางญาณีนาถเพื่อจะสอบถามถึงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้งแต่ไม่มีผู้รับสาย