"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์ "ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม" สมาชิกวุฒิสภา และ "จเด็จ อินสว่าง" สมาชิกวุฒิสภา ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเหตุใดถึงมีการเสนอ "รัฐบาลแห่งชาติ" ขึ้นมาในช่วงนี้
"วราวิทย์" ความเห็นของส.ว.จเด็จ ความเห็นของ ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ เป็นความเห็นส่วนบุคคลของท่านหรือเป็นความเห็นของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" ผมอยู่ในคณะกรรมาธิการเหมือนกัน เราสนใจเรื่องการเมืองอยู่แล้วเพราะว่ามีขอบเขตอำนาจหน้าที่ต้องทำเรื่องนี้โดยตรง ทำอย่างไรจะเกิดการพัฒนาการเมืองอย่างยั่งยืนในประเทศของเรา เรื่องนี้ทั้งสองท่านให้ความเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะยังไม่ได้มีการเข้าสู่การพิจารณาการศึกษาของกรรมาธิการแต่อย่างใด และยังไม่มีรายงานการประชุมที่จะเสนอเป็นเรื่องราวต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
"วราวิทย์" เมื่อวานได้มีการประชุมกันมั้ยครับ
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" ไม่ได้พบกันเลยครับ มีการประชุมทางออนไลน์แต่ไม่ได้คุยเรื่องนี้ครับ
"วราวิทย์" ที่ถามเรื่องนี้เพราะข่าวออกมาจากส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ เรื่องที่ท่านอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการไปเดินสายพบคนนั้นคนนี้ แล้วเหมือนกับเอามวลชนมากดดัน"กกต." กดดันศาลรัฐธรรมนูญ กดดันสมาชิกวุฒิสภา แล้วท่านก็พูดในนามของประธานกรรมการคณะกรรมาธิการชุดนี้ คนก็เลยเข้าใจว่านี่คือข้อเสนอของกรรมาธิการชุดนี้หรือป่าว สรุปอาจารย์ยีนยันว่าไม่ใช่
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" ไม่ใช่ครับ โดยส่วนตัวมี 2 ประเด็น เรื่องกดดันให้เลือกนายกฯก็ส่วนหนึ่ง แล้วก็เรื่องความเห็นว่ายังไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วไปพบหน่วยงานนี้อีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องที่กดดันส.ว.อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงในแง่ของความรู้สึก วิธีกดดันผมก็มองว่าเป็นเรื่องความงดงามนะ เด็กๆมีความฝัน แต่ว่าอารมณ์ร่วมของกลุ่มมวลชนบางทีก็ใช้ถ้อยคำข่มขู่ก็อาจจะมีบ้าง ขอที่อยู่จะไปหาหรือจะไปกดดันอะไรแบบนี้เขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
"วราวิทย์" ใครเป็นคนโดนพอจะบอกได้มั้ยครับ
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" ก็มีการพูดคุยกันว่าท่านเจออะไร คนอยู่ต่างจังหวัดก็เจออะไรแบบนี้ก็มี ซึ่งผมมองว่าต้องเข้าใจทั้งสองฝ่ายเนาะ คนที่เลือกตั้งมาด้วยบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ มาวันนี้ก็อยากเห็นเร็วๆเพราะฉะนั้นเป็นความชอบธรรมที่เขาอยากจะกดดันให้เกิดความสำเร็จ
"วราวิทย์" ในมุมนี้อาจารย์เข้าใจแรงกดดันตรงนี้
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" เข้าใจ
"วราวิทย์" มีอะไรที่รู้สึกล้ำเส้นเกินไปมั้ย
"ดร.ดิเรกฤทธิ์" ก็มีเวทีที่จะได้พูดหรือได้ออกสื่ออะไรก็ตาม ผมจะเตือนว่าประชาธิปไตยบางทีต้องอดทนนิดนึงนะ ให้เล่นตามกติกาและก็ให้ผู้เล่นเขาได้มีอิสระ ถ้าเรามีคดีแล้วเราเอามวลชนไปกดดันศาล ถ้าถึงเวลามีเรื่องที่ส.ว.จะต้องพิจารณาเอามวลชนไปกดดันส.ว.อย่างนี้เนี้ยเขาไม่มีความอิสระ เมื่อเขาไม่มีความเป็นอิสระสมองของเขา วิจารณญาณของเขา เหตุผลของเขามันจะไม่เป็นไปโดยตามที่ควรจะเป็น
การที่เรามอบหมายให้ใครทำหน้าที่อะไรเราควรจะไว้วางใจกัน การไปกดดันต่างๆยิ่งจะเป็นผลเสียด้วยซ้ำ เพราะงั้นถ้าเราเคารพกันปล่อยให้แต่ละคนได้ทำหน้าที่ผมคิดว่าทุกเรื่องจะออกมาดีครับ ทุกวันนี้ผมคิดว่าประชาธิปไตยของเราเติบโตงดงามมาก ผมมีความภูมิใจนะที่ประเทศของเรามาถึงตรงนี้ได้
"วราวิทย์" คุณจเด็จที่มาที่ไปวิธีคิดรัฐบาลแห่งชาติคืออะไรครับ
"จเด็จ" ในระหว่างของการตั้งรัฐบาลเป็นไปไม่ได้ พรรคที่ได้เสียงข้างมากมันเป็นไปไม่ได้ ต่อมาเอาพรรคที่ได้ที่ 2 เข้ามาร่วมกันก็เป็นไม่ได้ เพราะจะด้วยเหตุผลการขาดคุณสมบัติหรือการแบ่งเก้าอี้ไม่ลงตัวอะไรแบบนี้ ก็ยิ่งล่าช้า
เพราะฉะนั้นผมก็เลยเสนอว่าจริงๆแล้วการเมืองมันคืออะไร มันคือความรู้สึกนึกคิดในเรื่องของการประสานความคิดและการประสานประโยชน์ซึ่งกันและกัน ถ้าเกิดว่าเราทำให้ทุกพรรคการเมืองที่มีส่วนดีๆของทุกพรรคมาประสานความคิดมาประสานประโยชน์กันได้ ก็เท่ากับว่าเราสามารถเค้นหัวกะทิของแต่ละพรรคการเมือง หรือเอาคนดีๆทั้งหลายเข้ามาร่วมมือกันทำงาน ตรงนี้ก็เลยเกิดความคิดแว็บนึงในเรื่องของการประสานประโยชน์มันจะก่อให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติที่เราเรียกว่ารัฐบาลของประชาชนที่แท้จริง
"วราวิทย์ "คุณจเด็จ พรรคก้าวไกลมีคนเลือกมาตั้ง 14 ล้านกว่า เพื่อไทยอีก 10 ล้านกว่า จริงๆเขาก็เป็นเสียงข้างมากแล้ว แล้วจะไปทำรัฐบาลแห่งชาติทำไม เขาอาจจะถามกลับว่าเพียงแค่สมาชิกวุฒิสภาโหวตเข้าไปให้ถึง 376 เสียง เขาก็ตั้งรัฐบาลได้แล้วไม่งั้นจะเสียงเวลาเลือกตั้งไปทำไม
"จเด็จ" ผมมองว่าท่านหัวหน้าพรรคก้าวไกลมีปัญหา พรรคก้าวไกลเองก็มีปัญหาในการนำเสนอทิศทางและแนวนโยบายในการที่เข้าไปกระทบกระเทือนมาตรา 112 เพื่อแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 อันนี้เป็นประจักษ์พยานได้ เป็นที่ยอมรับแล้วว่าพรรคก้าวไกลเข้ามาก็จะเสนอร่างกฎหมายลักษณะประมวลกฎหมายอาญาเพื่อแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นี่ประเด็นที่หนึ่งนะ แล้ววันนี้คุณพิธาก็ยังไม่หยุดในการนำเสนอเรื่องเหล่านี้
เมื่อ 2-3 วันที่แล้วก็ไปให้สัมภาษณ์ BBC ก็หนักกว่านี้อีก นอกจากนั้นก็มีปัญหาเรื่องหุ้นสื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ซึ่งผมไม่ได้คิดล่วงหน้าไปทางเลวร้ายนะครับ แต่ว่าถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมาถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วสลับขั้วกันก็ยังมีปัญหาอีก จนกระทั่งวันนึงเป็นการเมืองอยู่บนถนน ผมเสียดายจัง เสียดายโอกาสของประเทศชาติ เมื่อกี้ผมพูดแล้วนะถ้าคุณพิธาและพรรคอีก 7 พรรค เดินหน้าไปได้จนเป็นรัฐบาลประสบความสำเร็จผมดีใจด้วย ผมพูดในฐานะสมาชิกวุฒิสภาคนนึง ไม่ได้พูดในฐานะภาพรวมของสมาชิกวุฒิสภา
"วราวิทย์" สุดท้าย"คุณจเด็จ"ยังยืนยันว่าถ้าเดินตามนี้ไม่โหวตคุณพิธาแน่นอนใช่มั้ยครับ
"จเด็จ" ถ้าเป็นอย่างนี้นะครับ ผมปฏิญาณตนไปแล้ว และในฐานะประชาชนคนไทยผมต้องรักษาพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าคุณพิธาและพรรคก้าวไกลยังมีแนวทางของการไปแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ไม่ว่าย้ายหมวดหรือลดโทษ ผมไม่สามารถจะโหวตได้
ชมคลิป>>>> ตัดตอนก้าวไกล สูตรใหม่ "รัฐบาลแห่งชาติ"