svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เลือกตั้ง 2566"สะท้าน"แม่ฮ่องสอน"พรรคใด ใครมีลุ้นคว้า 2 ส.ส. เมืองสามหมอก

ส่องสนาม"เลือกตั้ง66" แม่ฮ่องสอน สั่นสะท้าน พรรคการเมืองใหญ่ ส่งลงแข่งขันครบครัน แต่ผู้คว้าชัยมีเพียง 2 ที่นั่ง 2 เขตเท่านั้น พรรคใดจะยึดเก้าอี้ส.ส.เมืองสามหมอก

"ศึกเลือกตั้ง 2566"  จังหวัด"เเม่ฮ่องสอน" ในวันวานคือจังหวัดไกลปืนเที่ยงที่หลายคนชะงักหากต้องไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะพื้นที่นี้ติดอันดับจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดของประเทศไทย เเต่อีกมุมหนึ่งเมืองสามหมอกเป็นจังหวัดที่ประชากรมีความสุขที่สุดในประเทศเช่นกัน

ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่ที่ยังขาดเเคลนหลากวาระในวันนี้ เเละวันหน้านั้น วันที่ 14 พฤษภาคม  ชาวเมืองสามหมอก จะได้สิทธิเลือกส.ส.2 คน เเต่หากย้อนประวัติเเล้วจะพบว่าเเทบไม่มีการผูกขาดจากพรรค ตระกูลการเมืองในพื้นที่เเบบถาวร ดังนั้นคะเเนนนิยมส่วนบุคคลในตัวผู้สมัคร ส.ส. /การจับประเด็นการเเก้ปัญหาเรื้อรัง /กระเเสนิยมพรรค คือปัจจัยในการชี้ว่าใครจะเข้าวิน

สนามนี้จึงมีค่าเเปรผันสูงเเละต้องประเมินเเบบเจาะลึกเพราะหนึ่งส.ส. มีผลต่อการเมืองสนามใหญ่เเบบปฏิเสธไม่ได้ 

อีกทั้ง ภาคเหนือ ต้องรับสภาพว่า กระเเส"เพื่อไทย"ยังเป็นเบอร์หนึ่ง เเต่บางเขตนั้นกระเเสพท.อาจเเพ้"พรรคก้าวไกล" เเละบางเขตนั้นคะเเนนนิยมบุคคลก็มีผล

อย่าลืมว่าพท.ไร้ส.ส.แม่ฮ่องสอนมาหลายสมัยแล้ว ส่วน"พรรคลุงป้อม"เเละ"รวมไทยสร้างชาติ" กล่าวกันตามประสานักเลงการเมือง "พรรคของสองลุง" ลุ้นเเทบไม่ขึ้น ขณะที่คะแนนของ"ปชป."น่าจะอยู่ระนาบเดียวกับ"พปชร."เเละ"พรรคลุงตู่" ด้าน"พรรคภท."นาทีนี้ยังถือว่ามีลุ้นกว่าในบางเขต ส่วน"พรรคก้าวไกล"นั้นน่าจะเป็นสีสัน

หากหันมาลงรายละเอียดของสองเขตเมืองสามหมอก พบว่าเขต1 มี 10 พรรคส่งผู้สมัคร เเต่น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ 4 พรรคคือ 

"ปกรณ์ จีนาคำ" อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเเม่ฮ่องสอน   ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. พรรคพปชร.

"พรรคพลังประชารัฐ" ส่ง "ปกรณ์ จีนาคำ" อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเเม่ฮ่องสอน  "นายกฯแม้ว" บุตรชายปัญญา จีนาคำ อดีตส.ส.ห้าสมัยที่ตอนนี้เลื่อนไปลงบัญชีรายชื่อ "พรรคภูมิใจไทย"ส่ง "นันทิยา วงศ์วานิชย์"ทายาท "อนันต์ วงศ์วานิชย์" อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเเม่ฮ่องสอน 8 สมัยลงประชัน "พรรคเพื่อไทยส่ง" "สมภพ คงความซื่อ" เข้ามาสู้ " พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง" "จำลอง รุ่งเรือง" เข้าเเข่งขัน

"จำลอง รุ่งเรือง" ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. แม่ฮ่องสอน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

ว่ากันว่าจังหวัดนี้ "พท." ไม่เน้นตามมาด้วยกระแสข่าวสะพัด พท.เเตะมือผู้กองคนดังในการเเบ่งพื้นที่ล่วงหน้า โดย"พปชร."หวังว่าผู้กองคนดังจะช่วยปักธงเขตนึ้ไว้ได้ เเละยังมีกระเเสข่าวว่า"ผู้กองคนดัง"เเตะมือหลวมๆ กับอดีตเสธ.คนหนึ่งในการเลี่ยงพื้นที่กัน เพราะอดีตเสธ. คนนี้ได้หนุน"จำลอง"ที่เคยเป็นส.ส.หนึ่งสมัยเเต่กระเเสวันนี้ของ"จำลอง"ไม่กระเตื้องนัก 

ดังนั้นน้ำหนักน่าจะวัดกันที่ "ปกรณ์กับนันทิยา" เพราะเสี่ยหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล"หัวหน้าพรรคภท.เพิ่งมาเมืองสามหมอกและขึ้นปราศรัยใหญ่ให้ และมองลงไปแล้วพบว่า"นันทิยา"เกาะพื้นที่มานานที่น่าจะมีเเรงบวก เพราะ "พี่ฝน" หาเสียงว่า "ขอโอกาสเพื่อเปลี่ยนเเปลงบ้านเกิด" โดย"นันทิยา"น่าจะมี อสม. เป็นขุมกำลังของภท.ทั่วประเทศในการช่วยรณรงค์ให้สอบได้

 "นันทิยา วงศ์วานิชย์" ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคภูมิใจไทย

บวกกับการลงพื้นที่ถี่ยิบของ"นันทิยา"เพื่อรวบรวมปัญหาที่เรื้อรังมาจัดการให้สะเด็ดน้ำในสี่ปีข้างหน้า บนเเคมเปญ"ส่งเสริมให้ถูกจุดต่อ ยอดให้ถูกที่ แก้ปัญหาให้ถูกทาง" กับประชาสังคมเพื่อวางนโยบายเฉพาะตัวของเขต 1 เมืองสามหมอกที่เร่งสร้างกระแส "โอกาสเดียวที่จะเปลี่ยน"

ส่วนเเคนดิเดตเขต1นั้นพบว่า "ปกรณ์"ลาออกจากนายกฯเล็กเพื่อลงสนามส.ส.เเล้วส่ง "มัลลิกา จีนาคำ"พี่สาวลงสมัครนายกฯเล็กเเทน   ส่วน"ปัญญา"ขึ้นไปลงส.ส.บัญชีรายชื่อ  ภาวะนี้คล้ายว่าครอบครัว"จีนาคำ”วางขุมกำลังไว้พอสมควร  

เเต่ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะโอเคไหมกับเกมที่”วางไว้บนกระดานการเมืองเช่นนี้ของบ้านจีนาคำ"บวกกับกระเเสพปชร.นั้นขายยากในตอนนี้ ภาวะแบบนี้อาจทำให้"ปกรณ์"ขยับขึ้นยาก เเละอาจส่งผลให้นันทิยาเเตะเส้นชัยเป็นคนเเรกในเขตหนึ่ง เมืองสามหมอก

"สมบัติ  ยะสินธุ์ " ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. แม่ฮ่องสอน เขต 2  จากพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนเขต 2 ส่งเข้าประกวด  13 พรรค เเละน่าเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 ตัวแทนจากกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ คือ "สมบัติ  ยะสินธุ์ "จากพรรคประชาธิปัตย์และ "วิทยา หวานซึ้ง" ของพรรคเพื่อไทย โดย"วิทยา"มีจุดเด่นที่เป็นชนเผ่าม้ง และประกอบธุรกิจพืชผลเกษตรรายใหญ่รวมถึงทำธุรกิจกับชนเผ่าต่างๆ ในจังหวัดทำให้มีฐานคะแนนเสียงของชาวม้งในพื้นที่บวกกับกระเเส พม.ในตอนนี้ก็เป็นต่อระดับหนึ่ง ขณะที่"สมบัติ" เคยเป็นส.ส.มาครั้งหนึ่งเเละวันนี้ยังรับเเรงหนุนจากกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเช่นกัน 

ส่วนพรรคอื่นๆนั้น เช็กโอกาสเเล้วน่าจะเหนื่อยกับการเบียดขึ้นเเละยากหลายชั้นในการเข้าวินเป็นส.ส.เขตสอง เมืองสามหมอก

สรุป "เเม่ฮ่องสอน"น่าจะเเข่งดุ/ฟัดหนัก เพราะเเคนดิเดตเเต่ละพรรคในสองเขตนี้มีจุดเด่น/จุดด้อยคละเคล้า ดังนั้นอยู่ที่ว่าผู้สมัครนโยบาย/กระเเสนิยมส่วนตัวเเละคะเเนนพรรคจะเดินเข้าถึงมวลชนได้ตรงเป้าเพียงใด

เเละควรระวังเกมใต้ดินที่อาจผุดขึ้นได้เสมอ ตรงนี้สังคมควรจับตาเเละอย่าให้เกิดขึ้นอีกกับประชาธิปไตยไทย