svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เลือกตั้ง66: "ลุงตู่"ปรับบทลุยแหลก"ขึ้นเวทีหาเสียง"เช็กกระแสคนกรุงฯ

"ลุงตู่" สุดคึก พลิกบทจากเลือกตั้งปี 62 เคยเก็บตัวปล่อยหมัดเด็ดโค้งสุดท้าย มารอบนี้ "เลือกตั้ง 66" ไม่รีรอ ขยับขึ้นเวทีปราศรัยย่อย ขอเช็กเรทติ้งคนกรุงฯ ติดตามใน"เจาะสนามเลือกตั้ง66"

เย็นย่ำเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566  บริเวณลานอัฒจรรย์ สวนเบญจ กิติ เต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อ "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา"  ผู้ได้รับการเสนอบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" นำทัพผู้สมัครส.ส. ขึ้นเวทีปราศรัยย่อย 

แน่นอน  นี่เป็นการขึ้นปราศรัยหาเสียงใจกลางเมืองหลวง ถือเป็นเวทีหาเสียงครั้งที่สามของ"ลุงตู่" กับสีเสื้อรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  เวทีแรก "จ.ชุมพร" เวทีที่สอง"จ.นครราชสีมา" รวมทั้งเตรียมเวทีย่อยๆในการให้"ลุงตู่"ไปพบมวลชน

เวทีแรกและเวทีที่สอง ผลตอบรับเป็นเช่นใดนั้น เชื่อว่าทีมงาน "รทสช."น่าจะประมวลข้อมูลสำหรับเวทีที่สามและเวทีย่อยๆในวันข้างหน้าได้ 

แฟ้มภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเคยขึ้นเวทีหาเสียงในเมืองกรุง กับพปชร.เมื่อปี 62 เป็นการขึ้นเวทีช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
 

แต่หากมองการขยับของ"ลุงตู่" พบว่า การขึ้นเวทีหาเสียงคราวนี้นับว่า"ลุงตู่"เดินเกมหนักกว่า เมื่อปี 2562 คราวนั้น"พลเอกประยุทธ์" ขึ้นเวทีครั้งเดียว (เวทีกทม.ของพปชร.) ในช่วงโค้งสุดท้ายบนแคมเปญเลือกความสงบ จบที่"ลุงตู่" จนส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐขยับเป็นพรรคอันดับสองและรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้หวุดหวิด ที่สำคัญ "ลุงตู่" ทำให้พปชร.ได้ส.ส.เมืองหลวงถึง 12 คน พลิกประวัติศาสตร์พรรคการเมืองใหม่หลังรัฐประหาร กวาดที่นั่งส.ส.ในเมืองกรุงได้ 

 

คราวนั้น"ลุงตู่"ออกตัวในนาทีสุดท้ายและชิงบทนำไปแบบเร้าอารมณ์  สร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยบทเพลง หยุดตรงนั้นที่เธอ โกยแต้มโค้งสุดท้าย  แต่สถานการณ์ตอนนี้ ไม่เหมือนสี่ปีที่แล้ว แตกต่างทั้งจังหวะการออกตัว แตกต่างทั้งการสวมบทการเมืองต่างพรรค อีกทั้งแปดปีมานี้พรรคต่างๆจองกฐิน"ลุงตู่"กันแบบไม่ยั้งมือ 

พล.ประยุทธ์  จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง ลานอัฒจรรย์  สวนเบญจกิติ

เมื่อ"ลุงตู่"มาตั้งพรรค"รทสช." ขึ้นมาเองโดยต้องแชร์แต้มจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมและพปชร.ของ" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ"  ไหนจะต้องหาแต้มเพิ่มขึ้นจากคนที่ยังไม่ตัดสินใจ ที่สำคัญตอนนี้พรรคคู่แข่งอัดแคมเปญหาเสียงที่กระแทกใจชาวบ้านกันเนืองๆแต่พรรคของ"ลุงตู่" ยังไม่ปล่อยทีเด็ดออกมาเพิ่ม  แบบนี้อาจจะเสียกระแสกับแคมเปญของบางพรรค เช่น เพื่อไทยไปหลายก้าว

อย่าลืมว่าเวทีกทม.เป็นเวทีชี้เป็นชี้ตายเวทีหนึ่งของสนามส.ส. พื้นที่นี้มี 33 ผู้แทนฯให้ชิงกัน  สำคัญกว่านั้นคือสนามเมืองหลวงคือจุดตัดว่าใครจะได้เป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล หากยังชิงส.ส.เมืองหลวงไว้ไม่ได้ รับรองวันข้างหน้า"ลุงตู่"เหนื่อยแน่

บวกกับตอนนี้โพลหลากสำนักชี้ว่า"ลุงตู่"ยังตามหลังแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล บวกกับการที่"ลุงตู่"ส่งสัญญาณไม่ร่วมงานกับสองพรรคนี้ และสองพรรคนี้บอกชัดว่าไม่เอา"พลเอกประยุทธ์" แน่นอน

บรรยากาศ สวนเบญจกิติ  ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง 66

ดังนั้น"พลเอกประยุทธ์" ต้องออกโรงปลุกกระแสกลุ่มอนุรักษ์นิยมในเมืองหลวงให้มั่นใจ"ลุงตู่"ว่า พร้อมทำงานต่อและยืนหนึ่งสู้กับอีกปีกหนึ่งบนเวทีการเมือง

ความพยายามต้องไปให้ถึงเป้าหมายแรก คือ 25 ส.ส.ของรทสช.นั้น แม้แกนนำพรรคจะยืนยันว่าทสช.น่าจะมีส.ส.สองระบบหนึ่งร้อยคนขึ้นไป แต่บนสถานการณ์ยามนี้"รทสช." น่าจะเบียดแทรกลำบากกับตัวเลขขั้นต้น

จับอาการมาตั้งแต่วันรับสมัครรับเลือกตั้งส.ส. เห็นได้ว่า "ลุงตู่" เข้าถึงสื่อ ด้วยการขึ้นเวทีเปิดตัวให้สัมภาษณ์แทบจะทุกเวทีองค์กรสื่อ  ซึ่งก็เป็นการพลิกบทจากที่เคยเป็น จนมาถึงครั้งนี้ การปรับเกมลุยหนักทั้งเวทีต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคใต้และวกกลับมาเวทีเมืองหลวงในช่วงนี้   น่าจะบ่งชี้ว่า"ลุงตู่"และทีมงานประเมินออกว่าหากออกตัวช้า จะโดนพรรคอื่นๆกลบกระแสชัวร์ โอกาสของ"ลุงตู่"จะริบหรี่ลงเรื่อยๆ

นับจากนี้เชื่อว่า"ลุงตู่"ออกตัวรัวๆถี่ๆแน่นอน รวมทั้งรอชมวาทะบนเวทีที่"ลุงตู่" น่าจะสะท้อนออกมาเพื่อต่อกรขั้วตรงข้ามว่าจะมีอะไรโดนใจหรือไม่

เลือกตั้ง66: "ลุงตู่"ปรับบทลุยแหลก"ขึ้นเวทีหาเสียง"เช็กกระแสคนกรุงฯ