28 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายสุพัฒนพงษ์พันธ์มีเชาว์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าเยี่ยมชมงาน Grandprix Moter Show ครั้งที่ 44
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาด้วยรถยนต์หมายเลขทะเบียน กต 29 กรุงเทพมหานคร โดยมีการใช้ทีมรักษาความปลอดภัยตำรวจสันติบาลแต่เป็นการแต่งกายนอกเครื่อง ซึ่งการมางานแสดงรถยนต์ในครั้งนี้ เป็นการมาแบบส่วนตัวไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า โดยสาเหตุที่ยังใช้รถประจำตำแหน่งเนื่องจากในเวลา 19.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎ
โดยทันทีนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้เยี่ยมชมบูธรถยนต์ จากค่ายต่าง ๆ พร้อมทดลองนั่ง โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูปนายกรัฐมนตรี พร้อมให้กำลังใจ อาทิ สู้ ๆ ตัวจริงหล่อกว่าในโทรทัศน์ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝากไว้ด้วยก็แล้วกันจะทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งที่นายกฯ และคณะเดินชมงานก็มีประชาชนบ่นว่า "น้ำมันแพงและรถ EV ก็แพงเหลือเกิน" นอกจากนี้มีประชาชนคนหนึ่ง พูดเล่น ๆ ว่า "อุ๊ย ประยุทธ์ มาหรอ จะประท้วงเสียหน่อย" ซึ่งไม่ได้ทำจริง แต่ทว่าการ์ดทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้ยินจึงกันตัวออกไป
โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้ ขึ้นไปทดลองนั่งบนรถยนต์หลายรุ่น พร้อมบอกว่า ตนชอบดูเครื่องยนต์ มากแต่มาที่นี่ให้ดูแต่มอเตอร์
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทำไมนายกรัฐมนตรีถึงเดินเร็ว นายกรัฐมนตรี จึงตอบติดตลกว่า เดี๋ยวพวกเธอจะหาว่าฉันดูแต่พริตตี้ และเมื่อมาถึงบูธมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Harley ซึ่งเป็นรถยนต์จักรยานยนต์ที่นายกรัฐมนตรีชื่นชอบ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ทดลองนั่งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อยแต่เทห์ จากนั้นได้ ทดลองนั่งมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ Honda ซึ่งเป็นคันใหญ่ทำให้การก้าวขาลงค่อนข้างลำบาก นายกรัฐมนตรีจึงหันมาแซวสื่อมวลชนว่า พวกเธอก็จับตาดูฉันอยู่น่ะสิ ขอให้สื่อมาลองขึ้นดูบ้างสิ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เผยภายหลังการเยี่ยมชมงานว่า มาดูผลงานของรัฐบาลที่เขาทำกันมา วันนี้มาในนามส่วนตัว และมีรองนายกรัฐมนตรีมาด้วย โดยต้องการมาดูข้อเท็จจริงที่รัฐบาลได้ดำเนินการ ในช่วงที่ผ่านว่ามีผลอย่างไรบ้าง ซึ่งมีผลความก้าวหน้าที่ดีเป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลได้ประกาศไว้
โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 80,000 ล้านบาท ใน 3 Sector คือรถยนต์สำเร็จรูป รถบัส สถานีเติมประจุไฟฟ้า ซึ่งมีหลายเรื่องที่อยู่ในกล่องตรงนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรามีความก้าวหน้าในอีกระดับแล้ว ซึ่งประชาชนมีการเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เป็นไปตามเป้าที่กำหนดให้เหลือรถสันดาปเพียงร้อยละ 30 ในอนาคต พร้อมขออย่าตกใจเมื่อโลกเปลี่ยนเราต้องปรับ ใครปรับได้ก็ต้องปรับก่อน
เมื่อถามย้ำว่าการออกมาตรการภาษีมาเป็นการเอื้อต่อการจัดงานดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยระบุสั้น ๆ ว่า ตนไม่ขอพูด ส่วนความเป็นไปได้ที่จะปรับลดราคายานยนต์ไฟฟ้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดี๋ยวเขาก็ปรับของเขาอยู่แล้วแหละ
โดยในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุการไม่ลงบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกรัฐมนตรี ได้ชะลอฟังก่อนที่จะส่ายศีรษะ พร้อมกับกล่าวว่า ฉันไม่ตอบล่ะ และเดินทางกลับในทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะยกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมภริยาได้มาดูรถ และะได้พบนายกรัฐมนตรีโดยบังเอิญ โดยนายวรวุฒิแซวว่าเมื่อสักครู่เดินเข้าไปชมภายในงานก็เอะใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอะจัง ถึงรู้ว่านายกรัฐมนตรีเดินทางมา
นายวราวุธ แซวอีกว่า เผื่อนายกรัฐมนตรีใจดี จะซื้อรถยนต์ให้ พร้อมกับกล่าวว่าอ่อซื้อไม่ได้ แจกไม่ได้ครับ นายกรัฐมนตรี จึงหันกลับมาระบุว่า ช่วงนี้พูดไม่ได้พร้อมทำมือจุ๊ ๆ หลังจากนั้นนายวราวุธ ได้สอบถามถึงอาการเจ็บมือของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ยังคงเจ็บอยู่