
30 มกราคม 2566 ที่หน้าศาลฎีกา สนามหลวง กลุ่มทะลุวัง นำโดย น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข , นายอนุสรณ์ อุณโณ รองศาสตราจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายเอกชัย หงส์กังวาน ทำกิจกรรมเดินทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังศาลฎีกา
เพื่อยื่นหนังสือและรายชื่อ ที่ประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 6,514 รายชื่อ ซึ่งลงชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org แก่ประธานศาลฎีกา สนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ "แบม" ผู้ต้องขังในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ยื่นขอถอนประกันตนเอง
โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกคน 3. พรรคการเมืองออกนโยบายยกเลิก ม.112 และ 116 มี นายธนากร พรวชิราภา หัวหน้าส่วนกฎหมายและระเบียบ สำนักงานประธานศาลฎีกา ในฐานพตัวแทนประธานศาลฎีกา เป็นตัวแทนรับมอบ
สำหรับแถลงการณ์ของ "กลุ่มทะลุวัง" ที่นำไปยื่นต่อศาลฎีกาพร้อม 6,514 รายชื่อ มีเนื้อหาความว่า ตามที่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์, อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือแบม ได้ถอนการประกันตัว เนื่องจาก เป็นการประกันตัวแบบมีเงื่อนไขที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ศาลอาญา มีคำสั่งคุมขังเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ทั้งสองคนจึงอดอาหารและน้ำ โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ
1.ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ทุกคน 2.ปฏิรูปยุติธรรม ศาลเป็นอิสระปราศจากการแทรกแซง 3. ประกันสิทธิเสรีภาพ ยกเลิกมาตรา 112 ทั้งสองคนปฏิเสธการรักษา มีอาการสาหัส เสี่ยงอันตรายต่อการเสียชีวิต ขณะนี้สาธารณชนได้แสดงออก ในการสนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อของ "ตะวันและแบม" โดยกลุ่มทะลุวังได้รวบรวมรายชื่อ ประชาชนจํานวน 6,000 คนที่สนับสนุนข้อเรียกร้องสามข้อของตะวันและแบบ ผ่านเว็บไซต์รณรงค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง (Change.org) จึงขอเรียกร้องต่อศาลฎีกาดังต่อไปนี้
1.ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคน จากการที่ราษฎร ได้มีการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย แต่รัฐบาลประยุทธ์กลับใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนและใช้มาตรา 112 และ 116 เป็นเครื่องมือในการจับกุมคุมขัง โดยที่ศาลไม่ให้ประกันตัว หรือให้ประกันตัวแต่มีเงื่อนไขหลายประการ ที่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญและสิทธิมนุษยชน เป็นเหตุให้ทั้งสองคนอดอาหารและน้ำ ดังนั้นจึงขอให้ศาลฎีกา ได้ปกป้องสิทธิเสรีภาพของราษฎร ด้วยการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคน
2.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนมีความเป็นอิสระ เปิดเผย โปร่งใส เนื่องจากผู้พิพากษา เจ้าของสำนวนในกระบวนการพิจารณาคดี ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง เนื่องจากผู้บริหารเป็นผู้พิจารณาสั่งการ อันเป็นการแสดงถึงการแทรกแซงกระบวนการพิจารณา ที่ทำให้ขาดความโปร่งใส ไม่เป็นที่ยอมรับต่อสังคม จึงขอให้ศาลฎีกาประกาศโดยชัดแจ้ง ให้กระบวนการพิจารณาคดี ปราศจากการแทรกแซงจากผู้บริหาร และผู้มีอำนาจหน้าที่ส่งผลต่อความยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพของราษฎร
3.ประกันสิทธิเสรีภาพของราษฎร จากการใช้กฎหมายมาตรา 112 และ 116 อย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการยุติการดำเนินคดี ที่เกิดจากการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของราษฎร ดำเนินการในการยกเลิกมาตรา 112 และ 116
นอกจากข้อเรียกร้อง ที่ได้อ่านเเถลงการณ์ ยังมีจดหมายเปิดผนึก 50 คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ จากสถาบันการศึกษา เรื่องเรียกร้องให้คืนสิทธิ ในการได้รับการปล่อยชั่วคราว ให้แก่ผู้ต้องหา หรือจำเลยในคดีการเมือง