svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ORIGINAL

เมื่อปัญหาสังคมถูกสะท้อนผ่านซอมบี้จากซีรี่ย์ ‘All of Us Are Dead’

20 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นอกจากความบันเทิงจากซีรี่ย์ซอมบี้สุดฮิตแห่งปี ‘All of Us Are Dead’ เรื่องนี้ซ่อนประเด็นสังคมอะไรเอาไว้อีกบ้าง?

          ไม่กี่วันหลังจากซีรี่ย์ ‘All of Us Are Dead’ เปิดตัวในวันที่ 28 มกราคม ก็ขึ้นแท่นกลายเป็นซีรี่ย์ Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุดบนชาร์ตสตรีมมิ่งทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2021 ตำแหน่งนี้เคยตกเป็นของซีรี่ย์ Squid Game และ Hellbound มาก่อน

 

          เนื้อเรื่องของ All of Us Are Dead ว่าด้วยกลุ่มนักเรียนที่พยายามเอาชีวิตรอดจากผู้ติดเชื้อที่กลายเป็นซอมบี้ในโรงเรียน ก่อนที่จะลุกลามบานปลายไปทั่วทั้งเมือง ส่วนพวกเขาก็รอความช่วยเหลืออย่างมีความหวัง แต่แล้วก็ต้องรู้ว่าพวกเขาต้องสู้ด้วยตัวเองเท่านั้น

 

          บางส่วนตีความซีรี่ย์เรื่องนี้ว่าเหมือนเป็นการอุปมาอุปไมยกับไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นและได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ที่ผู้ติดเชื้อบางรายเสียชีวิต บางรายสามารถรักษาได้ บางรายติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งแม้การตีความจะสามารถฉีกออกไปได้หลายรูปแบบ แต่หนึ่งสิ่งเลยที่ซีรีย์ All of Us Are Dead สะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัด คือปัญหาสังคมที่ถูกกดทับไว้ในประเทศเกาหลี และในบางจุดยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกอีกด้วย
จางฮารี นักยิงธนูสาวระดับม.ปลาย

เฟมินิสต์ และ วงการกีฬา แรงกดดันใต้สังคมปิตาธิปไตย
          ในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2020 ที่ถูกจัดขึ้นยังกรุงโตเกียว ‘อัน ซาน’ นักกีฬายิงธนูสาววัย 20 ปีชาวเกาหลีใต้ ได้ทำลายสถิติโอลิมปิกกวาด 3 เหรียญทองจากทุกรายการที่ลงแข่งขัน ในขณะที่ประชาชนจากแดนโสมร่วมเฉลิมฉลองถึงชัยชนะในครั้งนี้ ก็ยังไม่วายมีผู้ชายบางกลุ่มที่มีความเกลียดชังต่อเพศหญิง (misogynist) แย้งขึ้นมาว่า นักกีฬาสาวรายนี้เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่ดันตัดผมสั้นซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสตรีนิยมหรือเฟมินิสต์  (feminism) ที่พวกเขาต่อต้าน

          ในซีรี่ย์ All of Us Are Dead สะท้อนถึงความกดดันของชีวิตนักกีฬาผ่าน จางฮารี 'พี่สาวนักยิงธนู' นักเรียน ม.ปลายที่รักการยิงธนูเป็นชีวิตจิตใจและหากเธอชนะการแข่งขันยิงธนูระดับ ม.ปลายแล้ว จะเป็นหนึ่งในใบเบิกทางชั้นดีให้เธอสามารถเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศได้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็เป็นดั่งใจหวังไปเสียทั้งหมดไม่ได้ จางฮารี ตกรอบในการแข่งขันยิงธนู ซึ่งนั่นทำให้ความหวังและอนาคตในการเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยของเธอต้องดับลง

 

          มิหนำซ้ำโค้ชของทีมยังวิพากวิจารณ์เธอต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมอย่างดุเดือด ความกดดันระดับมหาศาลนี้สามารถส่งผลให้ชีวิตเด็กมอปลายคนหนึ่งรู้สึกสิ้นหวังและคิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์ที่จะอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้

 

          จางฮารีกลับมาที่โรงเรียนพร้อมกับความรู้สึกสิ้นหวังอย่างสุดๆ แต่เมื่อพบว่าโรงเรียนต้องเผชิญวิกฤตปัญหาซอมบี้ระบาด ด้วยสัญชาติญาณและหัวอกคนเป็นพี่คนโตของบ้าน จางฮารีต้องออกตามหาน้องชายอย่างสุดชีวิต ซึ่งเธอได้ใช้ทักษะการยิงธนูเพื่อปกป้องคนมากมาย ช่วยให้พวกเขาหนีเอาชีวิตรอดต่อไปได้ และสิ่งที่เธอแสดงออกมานี้ยิ่งใหญ่แถมยังมีค่ามากกว่าการคว้าเหรียญทองในการคัดเลือกนักกีฬาเสียอีก
ความขัดแย้งระหว่าง นา-ยอน และ กยอง-ซู

แหล่งบุลลี่ชั้นดีที่ชื่อว่า ‘โรงเรียน’
          ปัญหาการบุลลี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนทั่วโลก ซีรี่ย์ปูเรื่องตั้งแต่ต้นถึงการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน กลุ่มนักเรียนที่รวมกลุ่มกันขึ้นมาเพื่อข่มขู่รังแกเด็กคนอื่นที่อ่อนแอกว่า เชื่อมโยงถึงระบบการศึกษาของเกาหลีที่มีการแข่งขันสูง ทำให้เด็กที่เรียนอยู่ในระดับพอใช้หรือไม่ได้คะแนนอันดับต้นๆตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อบุลลี่เด็กที่ได้คะแนนดีกว่า ทั้งการทำร้ายร่างกาย พูดจาเสียดสีกระทบจิตใจ หรือแม้กระทั่งการพยายามกุเรื่องร้ายของอีกฝ่ายขึ้นและเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเพื่อพยายามกลบปมในใจของตัวเอง

          จากข้อมูลอ้างอิงโดย Statista ในปี 2018 เกาหลีใต้จัดเป็นประเทศท้ายๆที่มีความตระหนักถึงไซเบอร์บุลลี่ นอกจากนี้เรื่องฐานะยังเป็นสิ่งที่เด็กนักเรียนหยิบมาใช้เพื่อแบ่งแย่งกลุ่มกันเองอีกด้วย

 

          ในซีรี่ย์ All of Us Are Dead เองก็ตีแผ่จุดนี้อย่างหลากหลายและเห็นได้ชัดจากฉากที่ กยอง-ซู เด็กนักเรียนที่ทางบ้านยังได้รับสวัสดิการจากภาครัฐอยู่เนื่องจากมีรายได้ไม่สูงมากถูกนา-ยอน เพื่อนร่วมชั้นพูดจาถากถางเรื่องเหม็นกลิ่นคนจนอยู่เสมอ แถมเพื่อนร่วมห้องยังหัวเราะตามกันๆให้กับมุกตลกร้ายนี้ เพราะชีวิตม.6 เป็นนรกที่โหดร้ายกว่าการต้องฝูงซอมบี้ 

 

          นอกจากเด็กนักเรียนในเกาหลีใต้จะเผชิญความกดดันจากโรงเรียน ทั้งเรื่องเพื่อน การถูกบุลลี่ และผลการเรียนแล้ว สิ่งที่เด็กๆยังต้องเผชิญคือความคาดหวังจากพ่อแม่ในเรื่องของ‘ความสำเร็จในการศึกษา’ ซึ่งจุดหมายของการเรียนที่พ่อแม่คาดหวัง คือ ต้องสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยให้ได้ 

 

          จากข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) พ่อแม่ชาวเกาหลีใต้เกือบร้อยละ 90 คาดหวังว่าลูกจะต้องเรียนจบมหาวิทยาลัยซึ่งหากเทียบกับหลายๆประเทศรอบโลกแล้วถือเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงมากๆ จนสร้างความเครียดให้กับเด็กนักเรียน ทำให้เด็กส่วนใหญ่แทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบเลย

 

          ในซีรี่ย์ยังแสดงให้เห็นถึงตัวละครที่คิดว่าหากเธอสามารถเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ไปได้ ชีวิตหลังจากนี้เธอต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งที่มีความรู้เท่าหางอึ่ง

 

          “พวกเธอต้องอยู่รอดให้ถึงปีหน้า แล้วบอกฉันด้วยว่าซอมบี้กับการอยู่ ม.6 อะไรแย่กว่ากัน” 

 

          ประโยคนี้ของตัวละครแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตเด็กนักเรียนชั้นม.6 ของเกาหลี ว่าเครียดและหมกหมุ่นกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากแค่ไหน

นัม-รา ตัวละครสาวที่ครองใจใครหลายคนจากซีรี่ย์เรื่องนี้ 

          นัม-รา ตัวละครสาวที่ครองใจใครหลายคนจากซีรี่ย์เรื่องนี้ เป็นตัวละครที่แสดงถึงเด็กที่มีผลการเรียนติดท็อปเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนอยู่เสมอ แต่กลับกันเมื่อในโรงเรียนเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาด นัม-รา กลับยังเดินใส่หูฟังและอ่านหนังสือโดยไม่ได้มีความตระหนักถึงเหตุการณ์รอบตัวที่เกิดขึ้น แต่ในขณะที่ตัวละครอย่าง อน-โจ เพื่อนร่วมห้องที่ผลการเรียนรั้งท้ายอยู่เสมอกลับพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อหาทางรอดให้ตัวเองและเพื่อนๆ 

 

          All of Us Are Dead เล่นกับประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อทักษะการเอาชีวิตรอดของเด็กนักเรียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ผลการเรียน หรืออิงแค่ในตำราเท่านั้น คนที่ได้ผลการเรียนดีมาตลอดใช่ว่าจะสามารถเอาตัวรอดได้เมื่อเกิดสถานการณ์ขับขัน ในทางกลับกันเด็กหลังห้องที่ไม่เคยมีใครสนใจอาจเป็นคนที่มีทักษะเอาตัวรอดในสังคมได้อย่างน่าทึ่งก็ได้
‘ส.ส.’ ที่ได้รับการดูแลระดับ VIP
การบริหารที่ล้มเหลวจากผู้ใหญ่ กองทัพ และตำรวจ
          ในปี 2014 ‘เรือเซวอลอับปาง’ เหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งประเทศเกาหลีลุกฮือมากที่สุด และเรียกความสนใจได้จากทั่วโลก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 304 ราย และเกือบทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ซึ่งการทำงานของรัฐบาลในยุคนั้นก็ตกเป็นที่วิพากวิจารณ์เป็นอย่างมากว่าให้ความช่วยเหลือไม่ทันท่วงที ส่วนคนที่หนีรอดเป็นคนแรกๆดันคือกัปตันเรือ ที่เป็นผู้ใหญ่และควรมีวุฒิภาวะมากกว่าแต่กลับทิ้งผู้โดยสารที่เป็นเด็กนักเรียนไว้ข้างหลัง

 

          All of Us Are Dead ใช้ความหวังของเด็กนักเรียนมาเป็นตัวดำเนินเรื่องที่สำคัญ ความหวังที่คิดว่าจะมีผู้ใหญ่สักคนเข้ามาช่วย ความหวังที่คิดว่าตำรวจหรือกองทัพจะหยิบยื่นความช่วยเหลือเข้ามาได้ทันเวลา แต่เด็กๆก็ต้องเผชิญกับความผิดหวังซ้ำๆเมื่อคนที่มีอำนาจในการบริหารประเทศกลับเลือกที่จะทอดทิ้งพวกเขา ‘กลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นความหวังของประเทศ’

 

          ในขณะที่ครูบางส่วนในโรงเรียนมีความพยายามจะช่วยอพยพและช่วยเหลือเด็กนักเรียน กลับต้องรอคำสั่งอนุมัติจากผู้อำนวยการโรงเรียน อันเนื่องมาจากความกังวลว่าโรงเรียนจะเสียชื่อเสียง ซึ่งหากมีคำสั่งอนุมัติตั้งแต่เนิ่นๆ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจไม่ลุกลามบานปลายได้ขนาดนี้ 

 

          “เพราะขั้นตอนพวกนั้น ทำให้มีหลายครั้งที่เราช่วยคนไว้ไม่ทัน” 

 

          คุณพ่อของอน-โจ พนักงานดับเพลิงที่พูดถึงประโยคนี้ได้เปี่ยมไปด้วยความเศร้า ที่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้อย่างอิสระ เพราะได้รับคำสั่งให้ดูแลกลุ่มคนที่มีอภิสิทธิ์เหนือชาวบ้านชาวช่องอย่าง ‘ส.ส.’ ที่เรียกได้ว่าเป็นระดับ VIP ซึ่งแม้ภารกิจดูแลคนระดับ VIP จะจบสิ้นลง แต่คุณพ่อของอน-โจก็ยังไม่สามารถไปช่วยลูกสาวของเขาได้ อันเนื่องมาจากกฎระเบียบและขั้นตอนมากมาย จนสุดท้ายเขาต้องยอมตกเป็น ‘ผู้กระทำผิด’ เพียงแค่ฝ่าฝืนคำสั่งเพราะอยากไปช่วยลูกสาวเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่ All of Us Are Dead เลือกที่จะถ่ายทอดออกมา สะท้อนจากเหตุการณ์จริงได้เจ็บแสบเป็นอย่างดี

เมื่อเด็กคือความหวัง ผู้ใหญ่คือความรู้ เราให้ค่าอะไรมากกว่ากัน?

เมื่อเด็กคือความหวัง ผู้ใหญ่คือความรู้ เราให้ค่าอะไรมากกว่ากัน?
          “บางประเทศจะรู้สึกเศร้ายิ่งกว่า เวลาที่ผู้ใหญ่ตาย บางประเทศจะเศร้าที่เด็กตายยิ่งกว่า คิดว่าเกาหลีเป็นประเทศแบบไหน?” - ประโยคตราตรึงหัวใจใครหลายๆคนที่ถูกถ่ายทอดออกมาโดยนัมรา

 

          “การที่เด็กตายแปลว่าความหวังหายไป ส่วนการที่ผู้ใหญ่ตายแปลว่าความรู้หายไป ความหวัง และความรู้ เราให้คุณค่าอะไรมากกว่ากัน”

 

          ด้วยวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นในซีรี่ย์ All of Us Are Dead ยิ่งวันเวลาผ่านพ้นไปโดยปราศจากความช่วยเหลือ ความหวังของเด็กนักเรียนที่มีต่อผู้ใหญ่เริ่มมีลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ และสุดท้ายคนที่มาช่วยจริงๆกลับเป็นเพียงพ่อแม่ของพวกเขา บุคคลที่ไร้ซึ่งอาวุธใดๆในการต่อกรกับซอมบี้ และยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพียงเพื่อให้ลูกของตัวเองปลอดภัย สิ่งนี้ยิ่งทำให้ความศรัทธาในภาครัฐและผู้มีอำนาจของประเทศลดน้อยลง 

 

          ท้ายที่สุดเมื่อตัวละครบางส่วนรอดชีวิต สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องคือการขอให้ลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพวกเขาจะไม่ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยอะไรอีกแล้ว


          All of Us Are Dead ถือเป็นซีรี่ย์เรื่องหนึ่งที่สะท้อนปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดี โดยเลือกใช้วิธีถ่าทอดผ่านการแพร่ระบาดของไวรัสที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ นอกจากนี้ยังถือเป็นกระบอกเสียงให้กับคนทุกช่วงวัย ว่าสิ่งที่สามารถทำได้หรือสิ่งที่ควรทำมีอะไรบ้าง และหากผู้ใหญ่เลือกที่จะทำสิ่งที่ไม่สมควร เด็กๆก็พร้อมจะสู้และทำทุกวิธีทางเพื่อยืนหยัดถึงความถูกต้องที่พวกเขาควรได้รับ

--------------------

อ้างอิง

logoline