svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เจาะลึกดราม่า "เปตองไทย" วิกฤตการเมืองในสมาคมฯ ที่ทำให้นักกีฬาต้องรับเคราะห์

วิกฤตการณ์ในสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทยได้บานปลายจนถึงจุดที่เลวร้ายที่สุด เมื่อสหพันธ์นานาชาติสั่งแบน "เปตอง" ออกจาก ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ! เจาะลึกถึงต้นตอของปัญหา ความขัดแย้งที่ยังแก้ไขไม่ได้ จนทำให้นักกีฬาต้องกลายเป็นผู้รับเคราะห์

KEY

POINTS

  • วิกฤตการณ์เริ่มต้นจากความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเปตองฯ ซึ่งกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยได้ร้องเรียนไปยังสหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP) ว่าไม่โปร่งใส
  • สหพันธ์ฯ มีคำสั่งแบนนายกสมาคมฯ คนใหม่ แต่ความพยายามแก้ไขปัญหาติดขัด เนื่องจากข้อบังคับของสหพันธ์ฯ ขัดแย้งกับกฎหมายไทยในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณให้สมาคมฯ
  • ผลลัพธ์สุดท้ายคือสหพันธ์ฯ สั่งห้ามจัดการแข่งขันเปตองในกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทำให้นักกีฬาต้องรับเคราะห์และสูญเสียโอกาสสำคัญในการแข่งขัน

การประกาศจากสหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP) ที่สั่งห้ามจัดการแข่งขันกีฬาเปตองใน ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ อาจเป็นคำสั่งสุดท้ายในวิกฤตที่ทำให้นักกีฬาไทยต้องสูญเสียโอกาสสำคัญในชีวิต บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจเบื้องลึกของดราม่าที่ทำเอาวงการกีฬาไทยต้องสั่นสะเทือน

เปตอง: ราชาแห่งซีเกมส์

ต้องยอมรับว่ากีฬาเปตอง คือหนึ่งในกีฬาความหวังเหรียญทองของไทยในมหกรรมซีเกมส์มาโดยตลอด ตั้งแต่บรรจุแข่งขันครั้งแรกในปี 2001 ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศไทยก็แทบไม่เคยพลาดที่จะเป็นเจ้าเหรียญทองเลย โดยในซีเกมส์ครั้งล่าสุด ทีมชาติไทยก็สามารถกวาดไปได้ถึง 6 เหรียญทอง และ 5 เหรียญทองแดง ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้นักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช และสมาคมฯ ได้รับเงินรางวัลรวมกันไปหลายล้านบาทจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ

จุดเริ่มต้นของวิกฤต: การเลือกตั้งที่ถูกโต้แย้ง

ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่แทน นายไกรสีห์ กรรณสูต ที่หมดวาระ โดยผู้ชนะคือ นาวาโท สุทธิโรจน์ ประพันธ์พัฒ อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติผู้มีประสบการณ์ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นถึง 72 จาก 90 เสียง และได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีกลุ่มบุคคลที่ถูกมองว่าเป็น "กลุ่มขั้วอำนาจเก่า" ที่ไม่พอใจกับการสูญเสียผลประโยชน์ ได้ออกมากล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส โดยมีการอ้างว่ามี "ชมรมผี" ที่ไม่มีสมาชิกและไม่เคยจ่ายเงินค่าบำรุง แต่กลับมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง และได้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับสหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP) เพื่อบีบให้ นาวาโท สุทธิโรจน์ ลงจากตำแหน่ง

มุมมองจากทั้งสองฝ่าย: ความขัดแย้งที่ไม่มีใครยอม

ในมุมมองของสหพันธ์ฯ และผู้ร้องเรียน การที่บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกับการทุจริตการเลือกตั้งยังคงมีอำนาจอยู่ในสมาคมฯ ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเป็นการทำผิดหลักธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง ทำให้สหพันธ์ฯ มีคำสั่งแบน นาวาโท สุทธิโรจน์ จากวงการเปตองตลอดชีวิต และขู่ว่าจะมีการลงโทษที่รุนแรงหากไม่ทำตามคำสั่ง

แต่ในทางกลับกัน นาวาโท สุทธิโรจน์ ยืนยันว่าตนเองได้รับเลือกตั้งมาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และเชื่อว่าการยอมลาออกจะเท่ากับเป็นการยอมรับว่าตัวเองกระทำผิด ซึ่งเขาไม่สามารถยอมได้ เพราะเขาเชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง การกระทำของเขาจึงเป็นไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและความถูกต้องของตนเอง

ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้และบทสรุปที่ไม่มีใครชนะ

เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างยืนกรานในจุดยืนของตัวเอง ปัญหาจึงไม่สามารถหาทางออกได้ แม้แต่ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย (อลป.ไทย) จะพยายามเข้ามาเป็นคนกลางเพื่อหาทางออกเฉพาะหน้า โดยการตั้ง "คณะกรรมการกลาง" ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่แทนสมาคมฯ ชั่วคราวเพื่อให้สามารถจัดการแข่งขันซีเกมส์ได้ แต่เรื่องกลับยุ่งยากขึ้นไปอีก เมื่อ กกท. ยืนยันว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย โดยเฉพาะเรื่องการเบิกจ่ายเงิน ดังนั้นการโอนเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาจึงต้องกระทำผ่านสมาคมฯตามกฎหมายไทยเท่านั้น แต่นั่นเท่ากับขัดกับคำสั่งของสหพันธ์ฯ ที่ห้ามเกี่ยวข้องกับ นาวาโท สุทธิโรจน์โดยเด็ดขาด

แนวทางที่ไม่สอดคล้องกันระหว่าง อลป.ไทย ที่เน้นความยืดหยุ่นเพื่อประโยชน์ของนักกีฬา และ กกท. ที่ยึดมั่นในกฎหมาย ทำให้ปัญหาไม่สามารถคลี่คลายได้ และเป็นเหตุให้สหพันธ์ฯ ออกคำสั่งขั้นเด็ดขาด สั่งแบน การแข่งขันเปตองในซีเกมส์ 2025 และขู่จะแบนนักกีฬาทุกชาติที่เข้าร่วมแข่งเป็นเวลา 2 ปีเต็ม

เอกสารจากสหพันธ์ฯ สั่งแบน "เปตอง" จากซีเกมส์ 2025

 

บทเรียนจากวิกฤต

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วิกฤตการณ์เปตองในครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงหลายประเด็น

  • ความขัดแย้งเชิงอำนาจในสมาคมกีฬา: เรื่องนี้เป็นการต่อสู้กันอย่างชัดเจนระหว่างขั้วอำนาจ 2 ฝ่ายชนิดไม่มีใครยอมใคร ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีผลประโยชน์ใด ๆ อยู่เบื้องหลังหรือไม่
  • อำนาจขององค์กรกีฬานานาชาติ: ในเมื่อสหพันธ์ฯ มีอำนาจสูงสุดในวงการกีฬาของตนเอง หากเราต้องการทำกิจกรรมกับเขา เราก็ต้องยอมรับและปฏิบัติตามกฎของเขา หากมีข้อขัดแย้งใด ๆ หน่วยงานของไทยควรยื่นประท้วง-อุทธรณ์ ตามขั้นตอนให้ถูกต้อง และในทางกลับกันก็ต้องพยายามชี้แจงเหตุผลและข้อจำกัดต่างๆให้องค์กรกีฬานานาชาติได้เข้าใจด้วย
  • ความเสียหายที่เกิดขึ้น: สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือผู้ที่ต้องรับเคราะห์ในสงครามครั้งนี้คือนักกีฬา ที่อุตส่าห์ฝึกซ้อมมาเป็นปีเพื่อโอกาสในบ้านของตนเอง แต่ความหวังทั้งหมดต้องพังทลายลงเพราะความขัดแย้งที่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

ถึงวันนี้ (23 ก.ย. 2568) การแข่งขันเปตองในซีเกมส์ก็ยังไม่สามารถจัดขึ้นได้ และเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น การไกล่เกลี่ยให้สหพันธ์ฯ เปลี่ยนใจดูจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง (แต่ยังไม่ถึงขั้น "เป็นไปไม่ได้") วิกฤตการณ์ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนที่ทุกฝ่ายจะต้องจดจำไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า เมื่อผู้มีอำนาจต่อสู้กัน ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือนักกีฬาและประเทศชาติในที่สุด