svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลใหม่เปิดฉากอย่างเป็นทางการ! สรุปและวิเคราะห์ 5 ประเด็นร้อนจากนัดแรก ทั้งฟอร์มของทีมใหญ่ที่น่าจับตา สถิติใหม่ของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และเซอร์ไพรส์จากทีมม้ามืดที่พลิกผลการแข่งขัน

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2025/26 ได้เปิดฉากการแข่งขันรอบลีกสเตจไปอย่างดุเดือดตลอดช่วงสามวันที่ผ่านมา ซึ่งในนัดแรกนี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายที่ชวนให้วิเคราะห์เจาะลึก ไม่ใช่แค่เพียงผลการแข่งขัน แต่ยังรวมถึงฟอร์มการเล่นและแนวโน้มที่น่าจับตาในอนาคต

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

1. ฟอร์มร้อนแรงของทีมจากเยอรมัน

ในฤดูกาลนี้ ทีมจากบุนเดสลีกาดูเหมือนจะเตรียมตัวมาอย่างดีเยี่ยมสำหรับเวทียุโรป โดยเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค ที่สามารถล้างแค้น เชลซี ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-1 และที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งโชว์เกมรุกที่น่ากลัวด้วยการถล่ม กาลาตาซาราย ไปถึง 5-1 ชัยชนะของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำเกมรุกที่หลากหลายและประสิทธิภาพในการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในม้ามืดที่น่ากลัวของทัวร์นาเมนต์นี้

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

2. สถิติใหม่ของ "ฮาลันด์" และความร้อนแรงของ "แรชฟอร์ด"

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยังคงเป็นเครื่องจักรทำประตูที่ไม่มีใครหยุดได้ โดยในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ นาโปลี 2-0 เขาได้สร้างสถิติที่น่าทึ่งด้วยการเป็นผู้เล่นที่ยิงครบ 50 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการลงสนามเพียง 49 นัดเท่านั้น สถิติของเขาบ่งบอกถึงความสามารถในการทำประตูที่เหนือมนุษย์และอาจจะทำลายสถิติอีกมากมายในอนาคต

ขณะเดียวกัน มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลนา ก็กลับมาระเบิดฟอร์มเก่งในบ้านเกิดของตัวเอง ด้วยการทำคนเดียว 2 ประตูใส่ นิวคาสเซิล ประตูของเขาแสดงให้เห็นถึงความคมและเทคนิคที่ยอดเยี่ยม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถเป็นกำลังหลักของบาร์เซโลนาได้

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

3. ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อนและผลการแข่งขันสุดเซอร์ไพรส์

นัดแรกของ UCL เต็มไปด้วยผลลัพธ์ที่พลิกล็อก โดยเฉพาะการเอาชนะทีมใหญ่ของทีมที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเต็งแชมป์ คาราบัค จากอาเซอร์ไบจาน สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอลของประเทศด้วยการบุกไปชนะ เบนฟิก้า ได้ถึงถิ่น 3-2 ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่ช็อกแฟนบอลทั่วโลก นอกจากนี้ ยูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ จากเบลเยียมก็สามารถบุกไปเอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน 3-1 ได้อย่างน่าประทับใจ แสดงให้เห็นว่าทีมจากลีกเล็กๆ ก็สามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้บนเวทีระดับยุโรป

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

4. เกมที่มีสกอร์สูงและดราม่าช่วงท้าย

เกมที่สนุกที่สุดในนัดนี้คงหนีไม่พ้นการเสมอกัน 4-4 ระหว่าง ยูเวนตุส กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเป็นเกมที่แฟนบอลได้เห็นการทำประตูถึง 8 ลูก และการพลิกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ขณะที่ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ก็ยังคงสไตล์การคว้าชัยชนะในช่วงท้ายเกมได้เหมือนเดิม ด้วยการได้ประตูชัยจากลูกโหม่งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง "ดีเอ็นเอ" ที่ไม่ยอมแพ้ของทีมภายใต้การคุมทัพของ อาร์เน่อ ชล็อต

เจาะลึก 5 ประเด็นเด็ด UCL นัดแรก: จากการทุบสถิติ สู่ปาฏิหาริย์ของทีมรองบ่อน

5. ฟอร์มของทีมยักษ์ใหญ่ที่น่าจับตา

นอกจากประเด็นที่กล่าวมาแล้ว ทีมใหญ่อื่นๆ ก็เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าพอใจเช่นกัน เรอัล มาดริด สามารถเก็บ 3 แต้มได้จากการชนะ มาร์กเซย 2-1 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ส่วน อาร์เซนอล ก็บุกไปเอาชนะ แอธเลติก คลับ ได้ 2-0 อย่างเฉียบขาด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์เก่า ก็ยังคงฟอร์มอันดุดันด้วยการถล่ม อตาลันต้า 4-0 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการป้องกันแชมป์ของพวกเขาในฤดูกาลนี้

จากผลการแข่งขันในนัดแรกนี้ ทำให้ตารางคะแนนในรอบลีกเฟสมีความเข้มข้นตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะการแข่งขันเพื่อเป็นอันดับต้นๆ เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป

---

สรุปตารางคะแนนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

  1. ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต (1 นัด, +4, 3 คะแนน)
  2.  ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (1 นัด, +4, 3 คะแนน)
  3. คลับ บรูช (1 นัด, +3, 3 คะแนน)
  4. สปอร์ติ้ง ลิสบอน (1 นัด, +3, 3 คะแนน)
  5. ยูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ (1 นัด, +2, 3 คะแนน)
  6. บาเยิร์น มิวนิค (1 นัด, +2, 3 คะแนน)
  7. อาร์เซนอล (1 นัด, +2, 3 คะแนน)
  8. อินเตอร์ มิลาน (1 นัด, +2, 3 คะแนน)
  9. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1 นัด, +2, 3 คะแนน)
  10. คาราบัค (1 นัด, +1, 3 คะแนน)
  11. ลิเวอร์พูล (1 นัด, +1, 3 คะแนน)
  12. บาร์เซโลนา (1 นัด, +1, 3 คะแนน)
  13. เรอัล มาดริด (1 นัด, +1, 3 คะแนน)
  14. ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (1 นัด, +1, 3 คะแนน)
  15. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  16. ยูเวนตุส (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  17. โบโด/กลิมท์ (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  18. เลเวอร์คูเซ่น (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  19. โคเปนเฮเกน (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  20. สลาเวีย ปราก (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  21. โอลิมเปียกอส (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
  22. ปาฟอส เอฟซี (1 นัด, 0, 1 คะแนน)
     

*** ทีมที่แพ้และยังไม่มีคะแนน: แอตเลติโก มาดริด, เบนฟิก้า, มาร์กเซย, บียาร์เรอัล, เชลซี, พีเอสวี, อาแจ็กซ์, แอธเลติก บิลเบา, อตาลันต้า, โมนาโก, กาลาตาซาราย, นาโปลี, นิวคาสเซิล, ไครัต อัลมาตี