
KEY
POINTS
สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยทีมยักษ์ใหญ่ต่างทำผลงานได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะ ทีมชาติอังกฤษ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ซัดคนเดียว 5 ประตู
ในกลุ่ม K ทีมชาติอังกฤษ โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดบ้านถล่ม เซอร์เบีย ไปอย่างขาดลอย 5-0 ซึ่งเป็นการเก็บชัยชนะที่สำคัญภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล โดยได้ประตูจาก โนนี่ มาดูเอเก้, เอซรี่ คอนซา และ มาร์ค เกฮี ที่ทำประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จ รวมถึงสองประตูจากกัปตันทีมอย่าง แฮร์รี่ เคน
ทูเคิ่ล กล่าวหลังเกมว่า "มันเป็นการทำงานร่วมกันของทีมอย่างแท้จริง เราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความมุ่งมั่นที่ยอดเยี่ยม" ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจว่า "เซอร์เบียเป็นทีมที่ดี แต่คืนนี้เราทำให้พวกเขาดูเป็นทีมธรรมดาไปเลย"
นอกจากนี้ อังกฤษยังทำสถิติได้อย่างน่าประทับใจ โดยผู้รักษาประตูอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด ไม่ต้องออกแรงเซฟเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดทั้งเกม เนื่องจากเซอร์เบียไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลย
ด้าน ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลก ยังคงต้องออกแรงอย่างหนักกว่าจะเฉือนชนะ ไอซ์แลนด์ ไปได้ 2-1 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ แบรดลีย์ บาร์กโกล่า ที่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 62 ทำให้ฝรั่งเศสนำเป็นจ่าฝูงในกลุ่ม D
ส่วน โปรตุเกส ก็ต้องลุ้นจนถึงนาทีสุดท้ายเช่นกันกว่าจะเอาชนะ ฮังการี ไปได้ 3-2 โดยได้ประตูชัยจาก ชูเอา คันเซโล่ ในนาทีที่ 86 ซึ่งในเกมนี้ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็ยังคงทำสถิติได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อยิงจุดโทษให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ทำให้เขามีสถิติทำประตูในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเท่ากับ คาร์ลอส รุยซ์ ที่ 39 ประตู และเพิ่มสถิติประตูรวมในทีมชาติเป็น 141 ประตู
ขณะที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ก็ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะมีรอยเย็บที่ใบหน้าจากอุบัติเหตุประตูรถบัสกระแทก แต่เขาก็ยังสามารถซัดคนเดียวถึง 5 ประตู พาทีมนอร์เวย์ถล่ม มอลโดวา ไปอย่างยับเยิน 11-1 และนำเป็นจ่าฝูงในกลุ่ม I อย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ในกลุ่ม H ออสเตรีย ก็เก็บชัยชนะเหนือ บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา 2-1 ทำให้มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998