
KEY
POINTS
"ช้างศึก" ทีมชาติไทย พลาดโอกาสในการป้องกันแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 หลังจากเปิดบ้านพ่ายให้กับ ทีมชาติอิรัก ไปด้วยสกอร์ 0-1 ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว)
เกมนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเลือกใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดยมี สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด เป็นแกนหลักในแนวรุก ร่วมกับนักเตะที่ทำผลงานได้ดีจากเกมที่แล้วอย่าง เบนจามิน เดวิส, ปรเมศย์ อาจวิไล และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ตลอดครึ่งแรก ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน แต่ยังไม่มีใครทำประตูแรกได้ โดยไทยมีโอกาสลุ้นจากลูกยิงของ ศุภชัย ใจเด็ด และลูกฟรีคิกของ ปรเมศย์ อาจวิไล แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป ทำให้จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยเริ่มเกมด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงมาสร้างสรรค์เกมรุก และมีจังหวะที่น่าได้ประตูจากลูกยิงของ สุภโชค สารชาติ ที่ตามซ้ำโดย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แต่ถูกจับล้ำหน้าไปเสียก่อน
และในที่สุดในนาทีที่ 75 กลายเป็น อิรัก ที่มาได้ประตูขึ้นนำ จากลูกเปิดทางฝั่งขวาของ อิบราฮิม บาเยช ที่เปิดมาให้ โมฮานัด อาลี ขึ้นโหม่งทำประตูชัยให้อิรักนำ 1-0
แม้ในช่วงท้ายเกม อิรักจะเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนจากการโดนใบแดงไล่ออกของ ฟรานส์ ปูโตรส และ โมฮานัด อาลี แต่ไทยก็ไม่สามารถฉวยโอกาสทำประตูตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้จบเกมด้วยความพ่ายแพ้ 0-1
จากผลการแข่งขันดังกล่าว ทำให้ ทีมชาติไทย จบด้วยการเป็นรองแชมป์ และได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ขณะที่ อิรัก คว้าแชมป์คิงส์คัพไปครองเป็นสมัยที่สอง และได้รับเงินรางวัล 2 ล้านบาท
สำหรับโปรแกรมต่อไปของ ทีมชาติไทย คือการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก ซึ่งจะพบกับ ไชนีส ไทเป ทั้งในและนอกบ้านในช่วงเดือนตุลาคมนี้