
KEY
POINTS
ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้มีดีลที่น่าตกใจเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ เชลซี บรรลุข้อตกลงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการคว้าตัว อเลฮานโดร การ์นาโช่ กองหน้าดาวรุ่งวัย 21 ปีชาวอาร์เจนตินามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ซึ่งดีลนี้ถือเป็นการขายนักเตะที่ทำเงินได้มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เส้นทางการย้ายทีมของ การ์นาโช่ ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก หากพิจารณาจากสถานการณ์ของเขากับสโมสรในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของเขากับกุนซืออย่าง รูเบน อโมริม เริ่มมีปัญหานับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน เมื่อโค้ชตำหนิเขาว่าไม่ตั้งใจฟังคำแนะนำข้างสนามในเกมยูโรปา ลีก
ความตึงเครียดมาถึงจุดแตกหักเมื่อ การ์นาโช่ ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในนัดชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก ซึ่งท้ายที่สุดแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายแพ้ให้กับท็อตแนม 0-1 การ์นาโช่แสดงความไม่พอใจด้วยการตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของอโมริมในโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้โค้ชสั่งให้เขาหาสโมสรใหม่ในทันที การ์นาโช่ถูกแยกซ้อมจากเพื่อนร่วมทีมหลัก และไม่ได้ร่วมเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกาด้วย
การทุ่มเงินกว่า 40 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว การ์นาโช่ ทำให้หลายฝ่ายเกิดคำถามว่าทำไมเชลซีถึงต้องเสริมทัพในตำแหน่งกองหน้าอีก ทั้งที่ใช้เงินไปกว่า 500 ล้านปอนด์กับผู้เล่นในตำแหน่งนี้ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่เบื้องหลังดีลนี้มีปัจจัยสำคัญหลายอย่าง
แม้จะมีสถิติการยิงประตูที่ไม่ดีนัก โดยฤดูกาลที่ผ่านมาเขายิงได้เพียง 6 ประตูจาก 36 นัดในพรีเมียร์ลีก และมีอัตราการเปลี่ยนโอกาสสำคัญเป็นประตูได้เพียง 2 จาก 16 ครั้ง แต่สถิติที่น่าสนใจคือการ์นาโช่เป็นนักเตะแนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ดที่แย่งบอลคืนในแดนสุดท้ายได้มากที่สุด
การ์นาโช่เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยความสามารถและมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมาก ซึ่งด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ เชลซีหวังว่าเขาจะเป็นมากกว่าแค่ตัวเลือกราคาถูก แต่จะเป็นผู้สร้างความแตกต่างให้กับแนวรุกของทีมได้ในอนาคต