
ตลาดซื้อขายนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของผู้เล่น "ขาออก" หลังจากที่สโมสรได้ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านปอนด์เพื่อเสริมทัพในแนวรุก ทำให้ผู้เล่นหลายคนในตำแหน่งดังกล่าวเริ่มมีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรอื่นๆ มากขึ้น
สถานการณ์ของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงชาวเดนมาร์ก กำลังตกเป็นประเด็นร้อนแรง เมื่อเจ้าตัวไม่มีชื่อในทีมชุดที่พ่ายแพ้ต่ออาร์เซนอล 1-0 ในเกมนัดเปิดฤดูกาล ทำให้เกิดกระแสข่าวการย้ายทีมอย่างหนัก โดยล่าสุด อิ๊กลี ทาเร่ ผู้อำนวยการกีฬาของ เอซี มิลาน ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าสโมสรให้ความสนใจในตัวนักเตะรายนี้
การมาถึงของ เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าคนใหม่ค่าตัว 73.7 ล้านปอนด์ ทำให้โอกาสลงสนามของ ฮอยลุนด์ มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมาก ซึ่ง รูเบน อโมริม กุนซือของแมนยูฯ ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับอาร์เซนอลว่า “มันคือการแข่งขันแย่งตำแหน่งกัน เราต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาดซื้อขาย” แม้ว่า ฮอยลุนด์ จะเคยแสดงความต้องการที่จะอยู่กับทีม แต่ด้วยจำนวนนักเตะในแนวรุกที่มีถึง 6 คน ทำให้สโมสรอาจต้องปล่อยผู้เล่นบางรายออกไป
สำหรับ ฮอยลุนด์ ที่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ เขาทำผลงานได้ดีในฤดูกาลแรกด้วยการยิง 16 ประตู แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมากลับทำได้เพียง 10 ประตูจาก 52 นัดเท่านั้น ทำให้การย้ายทีมครั้งนี้มีโอกาสเกิดขึ้นสูง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นาโปลี อีกหนึ่งสโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลีก็ให้ความสนใจในตัว ฮอยลุนด์ เช่นกัน
ในขณะที่ โจชัว เซิร์กซี กองหน้าอีกรายของแมนยูฯ ก็ตกเป็นเป้าหมายของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือคนใหม่ของนาโปลี ซึ่งต้องการตัวมาแทนที่ โรเมลู ลูกากู ที่ได้รับบาดเจ็บหนักและต้องพักยาวถึง 3 เดือน
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ของ เจดอน ซานโช่ ก็ยังคงไม่แน่นอน หลังมีข่าวว่าเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอจาก โรม่า ที่เสนอเงินค่าตัวราว 20 ล้านปอนด์ และเสนอสัญญาระยะยาวให้ โดยตามรายงานจากสื่อในอิตาลีระบุว่า ซานโช่ ต้องการย้ายไปเล่นให้กับสโมสรที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และพร้อมที่จะรอข้อเสนอจากสโมสรเหล่านั้น แม้จะมีรายงานว่าเขาก็ได้เปิดโอกาสในการย้ายไปเล่นให้กับ เบซิคตัส ทีมดังจากตุรกีที่พร้อมจะจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโตให้ก็ตาม