
เข้าสู่คืนที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ของศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 โดยไฮไลต์หลักของค่ำคืนนี้คือเกมที่ เชลซี ตัวแทนจากอังกฤษจะลงสนามพบกับ LAFC แชมป์ MLS จากสหรัฐอเมริกา ที่สนาม ลีวายส์ สเตเดียม เมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย
เชลซีกลับมาบนเวทีระดับโลกอีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์ยุโรปทั้งในระดับสูงสุดและระดับรองมาตลอด 4 ปีหลัง โดยตั๋วเข้าร่วมฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หนนี้ของพวกเขาเกิดขึ้นทันทีหลังจบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21
นับตั้งแต่ยกถ้วยแชมป์ยุโรปสมัยล่าสุด เชลซียังสร้างสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ยูฟ่า ด้วยการเป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ครบทั้ง 4 รายการใหญ่ในทวีป ได้แก่ แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก, คอนเฟอเรนซ์ ลีก และซูเปอร์คัพ
ชัยชนะเหนือเรอัล เบติส 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศคอนเฟอเรนซ์ ลีก เป็นการปิดฉากฤดูกาลแรกอย่างสวยงามภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เฮดโค้ชคนใหม่ ซึ่งสามารถพาทีมกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกได้สำเร็จ พร้อมผลงานชนะถึง 8 จาก 9 นัดสุดท้ายในทุกรายการ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างยอดเยี่ยมสำหรับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์สโมสรโลกสมัยที่ 3 ของสโมสร
สำหรับผลงานในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ก่อนหน้านี้ เชลซีเคยลงเล่นมาแล้ว 2 ครั้ง โดยคว้าแชมป์ได้ในปี 2021-22 หลังเอาชนะพัลไมรัสในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วนครั้งแรกในปี 2013 พวกเขาจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ หลังพ่ายต่อโครินเธียนส์ ทีมดังจากบราซิล
แอลเอเอฟซี (LAFC) ตัวแทนจากเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ เดิมทีไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วมรายการนี้ แต่เมื่อ ลีออน แชมป์คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023 จากเม็กซิโก โดนตัดสิทธิ์จากกรณีละเมิดกฎการถือครองหลายสโมสรของฟีฟ่า ทำให้แอลเอเอฟซีต้องลงเล่นเพลย์ออฟตัดสินกับ คลับ อเมริกา เพื่อหาโควต้าสุดท้าย
สุดท้าย แอลเอเอฟซี เป็นฝ่ายคว้าชัย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และตีตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ในผลงานช่วงหลัง ทีมของ สตีฟ เชรูนโดโล กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี ไร้พ่ายมาแล้ว 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ พร้อมยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูทุกนัดตลอดช่วงเวลาดังกล่าว แต่เวลานี้พวกเขาจะพักเรื่องงานในลีกไว้ชั่วคราว เพื่อโฟกัสกับภารกิจใหญ่ในการเปิดตัวบนเวทีฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อย่างเต็มตัว
ในรายชื่อ 28 นักเตะที่ เชลซี นำไปทำศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หนนี้ มีที่ว่างให้กับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง เลียม ดีแล็ป, ดาริโอ เอซซูโก้ และ มามาดู ซาร์ ซึ่งทั้งหมดต่างมีลุ้นโอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อสิงห์บลูส์
ขณะเดียวกัน บรรดาสตาร์ตัวหลักของทีมต่างพร้อมลงสนาม นำโดย โคล พาลเมอร์, นิโกลัส แจ็คสัน, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และ มอยเซส ไกเซโด้ ซึ่งน่าจะมีบทบาทสำคัญในทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ดี เวสลีย์ โฟฟาน่า ยังต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บแฮมสตริง
ส่วน มิไคโล มูดริก ปีกทีมชาติยูเครน ยังคงติดโทษแบนชั่วคราวจากกรณีตรวจพบสารต้องห้าม ขณะที่ จอร์จี้ เปโตรวิช นายประตูสำรองก็ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างเจรจาย้ายทีม
ทางฝั่งแอลเอเอฟซี จุดเด่นในทีมหนนี้คือการมี โอลิวิเยร์ ชิรูด์ อดีตกองหน้าของเชลซีเป็นตัวชูโรง โดยหัวหอกวัย 38 ปียังคงรักษามาตรฐานผลงานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดเพิ่งทำประตูที่สามในเกมชนะสปอร์ติง แคนซัส ซิตี้
นอกจากนี้ยังมี โอดิน โฮล์ม มิดฟิลด์ชาวนอร์เวย์ที่ย้ายมาจากเซลติกด้วยสัญญายืมตัว ทว่าปัญหาอาการบาดเจ็บที่ขาอาจทำให้เขายังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
อีกหนึ่งคู่ในกลุ่ม C โบคา จูเนียร์ส จากอาร์เจนตินา พบกับ เบนฟิก้า แชมป์ลีกโปรตุเกส ที่สนาม ฮาร์ดร็อก สเตเดียม เมืองไมอามี
ความพร้อมเกมนี้ เบนฟิก้า จะยังคงไม่มี อเล็กซานเดอร์ บาห์ และ มานู ซิลวา ที่เจ็บยาว อย่างไรก็ตาม กุนซือ บรูโน่ ลาจ ยังคงมีขุมกำลังหลักที่พร้อมลงสนามเกือบครบชุด โดยแนวรุกจะนำโดย วานเจลิส ปาฟลิดิส หัวหอกทีมชาติกรีซที่ทำไป 19 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ในศึกพรีเมร่า ลีกา ฤดูกาล 2024-25
ในแดนกลางมีเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักอย่าง ออร์คุน ค็อกชู ที่สร้างโอกาสทำประตูมากที่สุดในลีกโปรตุเกสซีซั่นที่ผ่านมา (76 ครั้ง) พร้อมมีส่วนร่วมกับประตูถึง 14 ลูก และคาดว่าจะเป็นกำลังหลักในเกมนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน อังเคล ดิ มาเรีย และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ คู่ประสบการณ์สูงชาวอาร์เจนตินา ก็พร้อมลงสนามเต็มที่เพื่อดวลกับทีมเพื่อนร่วมชาติ
ฝั่งโบคา จูเนียร์ส จะไม่มี เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าตัวเก๋าที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ มิเกล เมเรนเตียล จะได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกตัวหลัก โดยเจ้าตัวทำไป 6 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ในศึกโทรเนโอ อเปร์ตูร่า 2025
ขณะที่ หลุยส์ อัดวินกูล่า แบ็คขวาทีมชาติเปรูยังไม่ฟิตสมบูรณ์และอาจพลาดลงสนาม แต่ในรายของ ไอร์ตัน คอสต้า ได้รับการอนุมัติวีซ่าชั่วคราวและเดินทางเข้าสหรัฐฯได้สำเร็จ
ส่วน มาร์โก เปลเลกริโน่ กองหลังที่เพิ่งย้ายมาจากเอซี มิลานด้วยสัญญายืมตัว น่าจะเริ่มต้นที่ม้านั่งสำรอง โดยมี มาร์กอส โรโฮ และ โรดริโก บัตตาย่า เป็นตัวเลือกหลักในแนวรับ
คู่สุดท้าย ฟลาเมงโก พบกับ เอสเปรานซ์ เดอ ตูนิส ในกลุ่ม D ที่สนาม แคมปิง เวิลด์ สเตเดียม เมืองออร์แลนโด
ความพร้อมเกมนี้ ฟิลิเป้ หลุยส์ กุนซือใหญ่ของฟลาเมงโก มีขุมกำลังแข็งแกร่งที่สุดชุดหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ให้เลือกใช้งานในเกมวันจันทร์นี้
แนวรุกนำโดย เปโดร กองหน้าทีมชาติบราซิล ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจาก จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอต้า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอุรุกวัยที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างมากในลีกฤดูกาลนี้ หลังมีส่วนร่วมกับประตูถึง 13 ลูกจากการลงสนามเพียง 9 นัด และยิงได้ 9 ประตูจากการยิงเข้ากรอบเพียง 10 ครั้ง
แดนกลางคาดว่า แอร์ซอน ซึ่งเตรียมย้ายไปเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กหลังจบทัวร์นาเมนต์ จะลงสนามร่วมกับดาวรุ่งอย่าง เอเวอร์ตัน อาเราโฆ โดยมี จอร์จินโญ่ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญ เช่นเดียวกับ 2 กองหลังจอมเก๋าอดีตแข้งยูเวนตุสอย่าง ดานิโล และ อเล็กซ์ ซานโดร
ฝั่งริมเส้น กอนซาโล่ ปลาต้า ปีกทีมชาติเอกวาดอร์ผ่านความฟิตพร้อมลงสนาม ส่วน นิโกลัส เด ลา ครูซ ยังไม่ได้ลงฝึกซ้อม และอาจกลับมามีชื่อได้ในเกมถัดไปที่จะพบกับเชลซีในวันศุกร์
ขณะที่ เอสเปรานซ์ เดอ ตูนิส ได้ ยาสซีน เมเรียห์ กัปตันทีมและปราการหลังกำลังสำคัญกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังพักรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ายาวถึง 6 เดือน
เกมรุกของตัวแทนจากตูนิเซียนำโดย ยูเซฟ เบไลลี่ กองหน้าทีมชาติแอลจีเรียที่ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูรวม 15 ลูกทั้งในลีกตูนิเซียและแอฟริกัน แชมเปี้ยนส์ ลีก
ขณะที่ ยาน ซาสเซ่ ปีกชาวบราซิลที่ยิงไป 10 ประตูในซีซั่นก่อน ก็พร้อมเจอกับคู่แข่งที่คุ้นเคยจากบ้านเกิด ส่วน โรดริโก้ โรดริเกส ศูนย์หน้าชาวบราซิลอีกคนจะยืนเป็นหน้าเป้า
...
ถ่ายทอดสดทาง DAZN, MONO29, MONOMAX