
ลามีน ยามาล วัย 17 ปี กลายเป็นฮีโร่ของทีมชาติสเปน หลังยิงสองประตูพาทีมเอาชนะฝรั่งเศส 5-4 ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ยามาลโชว์ฟอร์มเหนือกว่าคู่แข่งร่วมเวทีบัลลงดอร์อย่าง เดซีเร่ ดูเอ และอุสมาน เดมเบเล่ พาสเปนไล่ถล่มทีมของดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ที่ดูอ่อนล้าหลังมีนักเตะหลายรายเพิ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง
โดยในรอบชิงชนะเลิศวันอาทิตย์นี้ สเปนจะเข้าไปพบกับโปรตุเกส ที่เพิ่งโค่นเจ้าภาพเยอรมนีมาได้ 2-1 เมื่อวันพุธ
เกมนี้ถูกจับตาว่าเป็นการประชันฝีเท้าระหว่างดาวรุ่งของทั้งสองทีม แต่ฝั่งฝรั่งเศสดูจะอ่อนแรงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะนักเตะจากเปแอสเชอย่างดูเอ และเดมเบเล่ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก
แม้ฝรั่งเศสจะพยายามไล่ตีตื้นช่วงท้ายเกม โดยคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงจุดโทษตีไข่แตก, รายาน แชร์กี ทำประตูในการลงเล่นนัดแรกกับทีมชาติชุดใหญ่, ดาเนียล บีเวียน ทำเข้าประตูตัวเอง และ ร็องดาล โคโล มูอานี่ ยิงช่วงทดเจ็บ แต่ก็ไม่ทันการ
สเปนได้ประตูแรกในนาที 22 จากจังหวะที่ยามาลแทงทะลุช่องให้มิเกล โอยาร์ซาบัล ที่พลิกบอลหลบกองหลังสองคนก่อนจะจ่ายให้ นีโก้ วิลเลียมส์ ซัดเต็มแรงตุงตาข่าย
เพียงสามนาทีต่อมา มิเกล เมริโน่ ผู้เคยยิงประตูชัยให้สเปนในสนามแห่งนี้มาก่อน ก็สอดขึ้นมายิงประตูที่สองจากการทำชิ่งกับโอยาร์ซาบัล
ฝรั่งเศสเกือบตีไข่แตกจากลูกยิงของ เตโอ แอร์กน็องเดซ ที่ชนคาน และต้องชมอูไน ซิม่อน นายทวารของสเปนที่เซฟลูกยิงอันตรายจากดูเอ, เอ็มบัปเป้ และเดมเบเล่ได้ทั้งหมด
สเปนมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มเมื่อดีน เฮาเซ่น กองหลังจากเรอัล มาดริด ยิงเข้าไปอย่างสวยงามจากลูกตั้งเตะ แต่ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน
นาที 54 อาเดรียง ราบิโอต์ ทำฟาวล์ยามาลในเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมายิงเองไม่พลาดเป็น 3-0
จากนั้นเพียงนาทีเดียว เปดรี รับบอลจากวิลเลียมส์ก่อนจะงัดบอลผ่านไมค์ เมญ็อง เป็นประตูที่สี่
ฝรั่งเศสได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ของเปโดร ปอร์โร และเอ็มบัปเป้ยิงไม่พลาด แต่ยามาลก็มาตอบโต้ทันทีด้วยการจิ้มบอลผ่านเมญ็องเข้าไป เป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้
แม้ฝรั่งเศสจะฮึดไล่จนมาได้ถึง 4 ประตู แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ ทำให้สเปนคว้าชัยอย่างสุดมัน และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ