
หลังจากเพิ่งเป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเมื่อไม่กี่วันก่อน สนามอัลลิอันซ์ อารีนา จะกลับมาคึกคักอีกครั้งในคืนวันพุธนี้ เมื่อ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เตรียมลงสนามพบ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก
เยอรมนีลงเล่นในรอบไฟนัลส์ของรายการนี้เป็นครั้งแรก ขณะที่โปรตุเกสมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะล้มเจ้าถิ่น และกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นครั้งที่สอง
นี่จะเป็นครั้งแรกที่เยอรมนีและโปรตุเกสพบกันในรายการเนชันส์ ลีก และยังเป็นการดวลกันครั้งแรกนอกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ นับตั้งแต่ปี 1997
แม้เป็นการเข้ารอบ "เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์" ครั้งแรก แต่เยอรมนีก็ได้เปรียบจากการเป็นเจ้าภาพ และผลงานในบ้านก็แข็งแกร่งแพ้เพียงนัดเดียวจาก 11 นัดหลังสุดในบ้าน (แพ้สเปนในรอบก่อนรองยูโร 2024)
ฟอร์มของลูกทีมยูเลียน นาเกลส์มันน์ในรายการนี้โดดเด่น โดยพวกเขาคว้าแชมป์กลุ่มได้แบบไร้ปัญหา มี 14 แต้มจาก 18 แต้มเต็ม เหนือทีมร่วมสายอย่างเนเธอร์แลนด์ ฮังการี และบอสเนียฯ
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เยอรมนีดูเหมือนจะสบายเมื่อขึ้นนำอิตาลีถึง 5-1 ในครึ่งแรกของเลกสอง แต่กลับเสียถึง 3 ประตูในครึ่งหลัง และเกือบโดนตีเสมอจากจุดโทษก่อน VAR ยกเลิก
อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงมีความมั่นใจสูง โดยเฉพาะเมื่อเคยเอาชนะโปรตุเกสมาแล้วถึง 5 นัดติดต่อกันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ตั้งแต่ยูโร 2008 จนถึงยูโร 2020
โรแบร์โต มาร์ติเนซ ต้องเจอบททดสอบหนัก หลังฟอร์มยูโร 2024 ไม่น่าประทับใจ และการผ่านเดนมาร์กมาได้ในรอบก่อนรองฯ ก็เต็มไปด้วยความระทึก
หลังแพ้เลกแรก 0-1 พวกเขากลับมาตามตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลา ก่อนที่ฟรานซิสโก้ ตรินเกา จะยิงตีเสมอช่วงท้ายเกม และทำประตูชัยช่วงต่อเวลา พาทีมลิ่วเข้ารอบแบบหวุดหวิด
แม้โปรตุเกสจะถูกมองว่าเป็นรองในรอบไฟนอลส์ครั้งนี้ แต่ขุมกำลังส่วนใหญ่ยังเป็นแกนหลักจากชุดแชมป์ปี 2019 และถือเป็นบททดสอบสำคัญก่อนเริ่มคัดบอลโลก 2026 ในเดือนกันยายนนี้
ฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่มของรายการนี้ก็ดีขึ้นจากยูโร โดยพวกเขาไร้พ่ายในกลุ่มที่มีโครเอเชีย, สกอตแลนด์ และโปแลนด์