
ฟุตบอลทีมชาติไทยเตรียมลงสนาม 2 เกมสำคัญในวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 ทั้งในระดับชุดใหญ่และทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยจะเปิดสนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต พบกับทีมจากเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ เรียกได้ว่าเป็นอีกค่ำคืนที่แฟนบอลชาวไทยไม่ควรพลาด
เริ่มต้นในเวลา 16.00 น. ด้วยเกมกระชับมิตรระหว่าง “ทีมชาติไทย U23” พบกับ “ทีมชาติฮ่องกง U23” ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของแข้งดาวรุ่งไทยในการพิสูจน์ฝีเท้าก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่าง ศึกชิงแชมป์อาเซียน U23 เดือน ก.ค. นี้ที่อินโดนีเซีย
ภายใต้การนำทีมของ “ทาคายูกิ นิชิกายะ” เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ในระดับเยาวชนสูง ไทย U23 ชุดนี้เน้นการเสริมทัพด้วยผู้เล่นที่มีทั้งประสบการณ์ในลีกสูงสุดและดาวรุ่งจากต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น ยศกร บูรพา กองหน้าชลบุรี เอฟซี, เสกสรรค์ ราตรี ตัวรุกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เอราวัณ การ์นิเยร์ ดาวเด่นจาก โอลิมปิก ลียง
ขณะที่ฮ่องกง U23 แม้จะไม่มีชื่อเสียงมากนักในระดับทวีป แต่ถือเป็นทีมที่มีวินัยเกมรับดีและมีพัฒนาการต่อเนื่อง เกมนี้จะเป็นบททดสอบแท็คติกและจังหวะจบสกอร์ของทีมไทยได้เป็นอย่างดี
จากนั้นในเวลา 19.30 น. ต่อด้วยเกมที่หลายคนรอคอยระหว่าง “ทีมชาติไทยชุดใหญ่” ปะทะ “ทีมชาติอินเดีย” ในแมตช์อุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่าเดย์ ซึ่งแฟนบอลต่างให้ความสนใจเพราะเป็นการวัดศักยภาพของทีมชุดใหม่ภายใต้การคุมทีมของ “มาซาทาดะ อิชิอิ” ที่กำลังเตรียมตัวสำหรับไปลุยศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก
ทีมไทยจะนำทัพโดย “ชนาธิป สรงกระสินธ์” เพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีม ซึ่งจะมาประสานงานกับกองหน้าเลือดใหม่อย่าง ปรเมศย์ อาจวิไล โดยมี เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ สุภโชค สารชาติ ทำเกมริมเส้น
ฝั่งอินเดีย แม้จะมีอันดับฟีฟ่าต่ำกว่าไทย (127 เทียบกับ 99) แต่เพิ่งกลับมาชนะนัดแรกในรอบกว่า 16 เดือนด้วยการถล่มมัลดีฟส์ 3-0 ขวัญกำลังใจจึงมาเต็ม แถมยังมีดาวยิงจอมเก๋าอย่าง สุนิล เชตรี ที่อาจได้ลงสนามเป็นเกมอำลาทีมชาติ ร่วมด้วยนักเตะรุ่นใหม่อย่าง สุไฮล์ บัต ที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
สองเกมนี้ถือเป็นโอกาสดีของแฟนบอลที่จะได้เห็นแนวทางการทำทีมของโค้ชทั้งสองระดับ พร้อมลุ้นดูฟอร์มของนักเตะหน้าใหม่และตัวหลักก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์จริง เชิญชวนแฟนบอลทุกคนร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมชาติไทยให้คว้าชัยทั้งสองนัด เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนเดินหน้าสู่ภารกิจใหญ่ที่รออยู่ในอนาคตอันใกล้