จากหัวใจพ่อสู่แชมป์ยุโรป: "หลุยส์ เอ็นริเก้" กับภารกิจเปลี่ยน PSG
ย้อนเส้นทางของ "หลุยส์ เอ็นริเก้" จากโศกนาฏกรรมการสูญเสียลูกสาว สู่การนำ "เปแอสเช" คว้าแชมป์ UCL ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมสร้างทีมที่เต็มไปด้วยหัวใจและพลังแห่งอนาคต
ชัยชนะในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อค่ำคืนที่มิวนิค ไม่ใช่แค่การคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของสโมสร แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงหัวใจนักสู้และวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีมชาวสเปนอย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ชายผู้ผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ก่อนหวนคืนวงการฟุตบอลพร้อมนำทีมสู่ประวัติศาสตร์
คุณพ่อหัวใจแกร่ง
ในปี 2019 หลุยส์ เอ็นริเก้ สูญเสียลูกสาววัยเพียง 9 ขวบ "ซาน่า" (Xana) จากโรคมะเร็งกระดูกชนิดร้ายแรง แม้จะถอนตัวจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติสเปนเพื่อดูแลครอบครัว แต่บาดแผลทางใจยังคงอยู่กับเขาเสมอ
ในค่ำคืนแห่งความสำเร็จ แฟนบอล PSG แสดงความเคารพต่อเอ็นริเก้ด้วยการชูภาพ "พ่อและลูกสาวกำลังปักธง PSG" ซึ่งอ้างอิงจากภาพความทรงจำในปี 2015 สมัยที่เขาคุมบาร์เซโลนาได้แชมป์ยุโรป เอ็นริเก้ยอมรับว่า “ผมรู้สึกถึงลูกอยู่เสมอ แม้ตอนที่ทีมกำลังแพ้ เธอคือส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา”
พักใจ ก่อนกลับมาเปลี่ยนเปแอสเชให้เป็นทีมเวิร์ก
หลังจบภารกิจกับทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลก 2022 เอ็นริเก้พักจากวงการชั่วคราว ก่อนจะกลับมาในเดือนกรกฎาคม 2023 รับหน้าที่กุนซือ เปแอสเช พร้อมเป้าหมายใหญ่ นั่นคือการเปลี่ยนทีมดาราให้กลายเป็นทีมที่เล่นเพื่อกันและกัน
เขาปฏิรูปสไตล์การเล่นทั้งหมด เปลี่ยนจากฟุตบอลโชว์เดี่ยว มาเป็นการเล่นเป็นระบบ เน้นเกมรับที่มีวินัย การเพรสซิ่งที่เหนียวแน่น และการวิ่งแบบไม่มีหมดทั้งเกม
ผลลัพธ์คือ PSG ผงาดคว้าทริปเปิลแชมป์ ลีกเอิง, เฟรนช์ คัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะนัดชิงกับอินเตอร์ มิลาน ที่ถล่มไปถึง 5-0 อย่างเหนือชั้น
ดาวรุ่งเปล่งประกายภายใต้เงาใหญ่
หนึ่งในความสำเร็จที่น่าจดจำ คือการปลุกปั้น "เดซีเร่ ดูเอ้" ดาวรุ่งวัย 19 ปี ผู้ทำ 2 ประตูและ 1 แอสซิสต์ในนัดชิง คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมไปครอง ส่วน "อุสมาน เดมเบเล่" กองหน้าที่เคยขึ้นๆ ลงๆ กลับมาโดดเด่นอีกครั้งภายใต้การดูแลของเอ็นริเก้ ถึงขั้นแฟนบอลร้องเชียร์ให้ได้บัลลงดอร์
ภารกิจต่อไป: ชิงแชมป์สโมสรโลก
หลังคว้าแชมป์ยุโรป เปแอสเช ยังมีเป้าหมายสำคัญรออยู่ นั่นคือศึกฟุตบอลสโมสรโลก (FIFA Club World Cup) ที่จะเป็นบทส่งท้ายฤดูกาลอันสมบูรณ์แบบ
“นั่นจะเป็นเชอร์รี่ออนท็อปบนหน้าเค้ก” เอ็นริเก้ กล่าว
...
หลุยส์ เอ็นริเก้ ไม่เพียงแค่เป็นโค้ชที่พา เปแอสเช ไปถึงฝัน เขาคือมนุษย์ที่ผ่านบททดสอบแห่งความสูญเสีย แต่ยังยืนหยัด เดินหน้าต่อ และใช้ฟุตบอลเป็นพื้นที่เยียวยาทั้งตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลก
ในวันที่ เปแอสเช ชูถ้วยแชมเปียนส์ลีก เราได้เห็นไม่ใช่แค่ชัยชนะของสโมสร แต่คือชัยชนะของจิตวิญญาณแห่งครอบครัว ชัยชนะของหัวใจพ่อคนหนึ่ง ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา
