svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"เชลซี" รัวท้ายเกม ถล่ม "เบติส" 4-1 ผงาดแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก

สรุปประเด็นที่น่าสนใจจากเกมที่ "เชลซี" ระเบิดฟอร์มท้ายเกม ไล่ถล่ม เรอัล เบติส 4-1 คว้าแชมป์ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ปิดจ็อบครบเซตถ้วยยุโรป

เชลซี กลายเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ครบทั้ง 4 รายการในระดับสโมสรยุโรป หลังจากไล่ถล่ม เรอัล เบติส 4-1 ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่เมืองวรอตสวัฟ ประเทศโปแลนด์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

แม้ถ้วยใบนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของทีมชาวอเมริกันของเชลซีใฝ่ฝันไว้ที่สุด แต่ก็นับเป็นโทรฟี่ใบแรกภายใต้การบริหารของ ท็อดด์ โบห์ลี่ และกลุ่มทุนจากสหรัฐฯ ที่ทุ่มเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างทีมใหม่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ เชลซีเคยคว้าแชมป์ยุโรปภายใต้ยุคของ โรมัน อบราโมวิช มาแล้วทั้ง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (2012, 2021), ยูโรปาลีก (2013, 2019) และคัพ วินเนอร์ส คัพ (1971, 1998)

ในเกมนี้ โคล พาลเมอร์ โชว์ฟอร์มเด่นอย่างยิ่ง ทำสองแอสซิสต์ให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และ นิโกลัส แจ็คสัน ยิงในนาที 65 และ 70 ตามลำดับ ก่อนที่ เจดอน ซานโช และ มอยเซส ไกเซโด้ จะบวกอีกสองประตูช่วงท้ายเกม ปิดกล่องชัยชนะ 4-1

หลังจบเกม โบห์ลี่ลงไปในสนามแสดงความยินดีกับนักเตะ ขณะที่ รีซ เจมส์ กัปตันทีมวัย 25 ปี เป็นคนชูถ้วยแชมป์ท่ามกลางเสียงเฮจากเพื่อนร่วมทีม

“เรารู้ว่ารายการนี้คือสิ่งที่เราต้องคว้าให้ได้” เจมส์กล่าว “แต่เป้าหมายของเราคือแชมเปียนส์ลีก และปีหน้าพวกเราจะได้กลับไปที่นั่น”

เชลซีการันตีอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะได้สิทธิ์กลับไปเล่นในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า ถือเป็นบทสรุปอันยอดเยี่ยมในปีแรกของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาลี

"เชลซี" รัวท้ายเกม ถล่ม "เบติส" 4-1 ผงาดแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก

ความผิดหวังของเบติส

เรอัล เบติส ซึ่งได้เข้าชิงฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขึ้นนำเร็วจาก อับเด เอซซาลซูลี่ ในนาทีที่ 9 และทำได้ดีกว่าในครึ่งแรก แต่กลับแผ่วลงในครึ่งหลังและต้านทานเกมรุกของเชลซีไม่ไหว

รีซ เจมส์ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วงพักครึ่ง เปิดเผยว่าเขาผิดหวังที่ไม่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แต่ก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา “ครึ่งแรกเราดูไร้พลัง แต่ครึ่งหลังเราตอบสนองได้ยอดเยี่ยม”

ความพ่ายแพ้ของเบติสยังเป็นการหยุดสถิติอันเหลือเชื่อของสโมสรจากสเปน ที่คว้าชัยชนะมาได้ทั้งหมด 23 นัดในรอบชิงชนะเลิศระดับทวีปนับตั้งแต่ฤดูกาล 2001-02

"เชลซี" รัวท้ายเกม ถล่ม "เบติส" 4-1 ผงาดแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก

พาลเมอร์คือตัวแปรสำคัญ

โคล พาลเมอร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอังกฤษคือผู้จุดประกายการคัมแบ็ก ด้วยการเปิดครอสให้ เอ็นโซ่ โหม่งตีเสมอ ก่อนโชว์ทักษะหลอกกองหลังแล้วเปิดด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดให้ แจ็คสัน ยิงให้เชลซีพลิกนำ

จากนั้น เจดอน ซานโช ยิงลูกสุดท้ายของเกมในนาที 83 ซึ่งอาจเป็นประตูอำลาสโมสรหากแมนฯ ยูไนเต็ดไม่ตัดสินใจปล่อยเขาให้เชลซีถาวร ขณะที่ ไกเซโด้ กองกลางฟอร์มเด่นของทีมปีนี้ ซัดลูกที่สี่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

“ครึ่งแรกเรามีปัญหา แต่ครึ่งหลังพวกเราตอบสนองได้ดีมาก” มาเรสก้า กล่าวหลังเกม

"เชลซี" รัวท้ายเกม ถล่ม "เบติส" 4-1 ผงาดแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก

เหตุวุ่นวายก่อนเกม

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีเหตุความไม่สงบในเมืองวรอตสวัฟ โดยแฟนบอลของทั้งสองทีมปะทะกันในพื้นที่สาธารณะ จนทำให้ตำรวจต้องใช้ระเบิดเสียงและรถฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ก่อความวุ่นวาย มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 28 ราย ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น

"เชลซี" รัวท้ายเกม ถล่ม "เบติส" 4-1 ผงาดแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก

ทีมอังกฤษเบิ้ลแชมป์

จนถึงตอนนี้ สองถ้วยยุโรปประจำฤดูกาล 2024/25 ตกเป็นของทีมจากอังกฤษทั้งสิ้น หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เพิ่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ยูโรปาลีก

อย่างไรก็ตาม ความหวังในการกวาด "ทริปเปิลแชมป์ยุโรป" ของอังกฤษต้องหยุดลง เพราะนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก วันเสาร์นี้ที่มิวนิค จะเป็นการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ อินเตอร์ มิลาน