
ผ่านไปแล้วกว่า 15 ปีจากการพบกันครั้งสุดท้ายในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก บาร์เซโลนา และ อินเตอร์ มิลาน เตรียมหวนกลับมาดวลกันอีกครั้งในรอบตัดเชือก โดยเลกแรกจะมีขึ้นที่สนามมองต์จูอิคในคืนวันพุธนี้
ครั้งล่าสุดในปี 2010 เป็นฝั่งอินเตอร์ที่เฉือนผ่านบาร์ซ่าไปได้ ก่อนคว้าแชมป์ในปีนั้น แต่ครั้งนี้ยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลุนญาหมายมั่นจะล้างตา พร้อมตีตั๋วเข้าสู่นัดชิงฯ ที่จะพบผู้ชนะระหว่าง อาร์เซนอล หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
กำลังจะลุ้นเข้าชิงถ้วยใหญ่ยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คว้าแชมป์สมัยที่ 5 เมื่อปี 2015 แม้ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรอัล มาดริด คู่แข่งตลอดกาลจะคว้าแชมป์ถึง 5 สมัย แต่ฤดูกาลนี้ทีมชุดขาวไม่อยู่ในรายการแล้ว ขณะที่บาร์ซ่าชุดใหม่ภายใต้การนำของ ฮันซี่ ฟลิค ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง
นี่คือฤดูกาลยุโรปปีแรกของฟลิคกับบาร์ซ่า ซึ่งทีมของเขาทำผลงานได้ร้อนแรง ยิงเฉลี่ยถึง 3.1 ประตูต่อเกม สูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์รองจากทีมบาเยิร์น มิวนิค ของฟลิคเอง โดยพวกเขาเข้ารอบในฐานะอันดับสองจากลีกเฟส ก่อนเอาชนะเบนฟิก้าในรอบ 16 ทีม
ต่อจากนั้น บาร์ซ่าเปิดบ้านถล่มดอร์ทมุนด์ 4-0 ในรอบก่อนรองฯ เลกแรก แม้จะบุกไปแพ้ 3-1 ในเลกสอง แต่ก็เพียงพอจะเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-3 ซึ่งถือเป็นการผ่านรอบ 8 ทีมได้สำเร็จหลังพลาดมาถึง 5 จาก 6 ครั้งก่อนหน้านี้
ฟอร์มในบ้านของพวกเขายอดเยี่ยม โดยชนะ 5 เสมอ 1 จาก 6 เกม ยิงไปถึง 21 ประตู และยังร้อนแรงต่อเนื่องด้วยการเฉือนเอาชนะเรอัล มาดริด 3-2 ในเกมชิงถ้วยโกปา เดล เรย์ ด้วยประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของ ฌูลส์ กุนเด้ คว้าแชมป์ถ้วยนี้เป็นสมัยที่ 32
ตอนนี้บาร์ซ่ารั้งจ่าฝูงลาลีกานำมาดริดอยู่ 4 คะแนน และชนะถึง 23 จาก 28 นัดหลังสุด โดยพ่ายเพียงเกมเดียวให้กับดอร์ทมุนด์
อย่างไรก็ดี แม้พวกเขาชนะอินเตอร์มากถึง 6 จาก 12 เกมในแชมเปียนส์ลีก แต่การพบกันสองครั้งล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2022/23 จบลงด้วยผลเสมอและแพ้ อีกทั้งยังเป็นฝ่ายแพ้อินเตอร์ในรอบรองฯ ปี 2010
ทีมงูใหญ่เคยคว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว 3 ครั้ง และแม้ฤดูกาลก่อนจะพ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิงฯ แต่พวกเขากลับมาอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝั่งฝัน
อินเตอร์ทำแต้มในรอบแบ่งกลุ่มเท่ากับบาร์เซโลนา (19 คะแนน) จากนั้นเอาชนะเฟเยนูร์ดทั้งเหย้า-เยือน และล้มบาเยิร์น มิวนิคในรอบ 8 ทีมด้วยประตูชัยช่วงท้ายเกมจาก ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่
ลูกทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ แพ้เพียง 2 จาก 20 นัดหลังสุดในรายการนี้ โดยอินซากี้จะคุมทีมนัดที่ 50 ในแชมเปียนส์ลีก กลายเป็นโค้ชชาวอิตาเลียนคนที่ 7 ที่ทำได้ และมีสถิติชนะสูงที่สุดในหมู่พวกเขา (26 นัด)
แม้จะยิงได้น้อยกว่าบาร์ซ่า (19 ประตู ต่อ 37) แต่แนวรับของอินเตอร์แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร เสียไปแค่ 5 ลูก และเก็บคลีนชีตถึง 8 นัด
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มช่วงหลังน่าเป็นห่วง อินเตอร์แพ้ให้กับมิลาน 3-0 ตกรอบโคปปา อิตาเลีย ตามด้วยความพ่ายแพ้ต่อโบโลญญา และล่าสุดแพ้โรมา 0-1 คาบ้าน ทำให้ตอนนี้ตามหลังนาโปลี 3 แต้มในลีก และเสี่ยงหลุดจากเส้นทางป้องกันแชมป์