เชลซีและนิวคาสเซิลต่างคว้าชัยในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พาตัวเองทะยานเข้าสู่โซนลุ้นตั๋วแชมเปียนส์ลีก ในขณะที่อิปสวิชกลายเป็นทีมสุดท้ายที่ต้องตกชั้นในฤดูกาลนี้
ในวันเดียวกับที่ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือนิวคาสเซิล กลับมาคุมทีมข้างสนามหลังพักรักษาตัวจากโรคปอดอักเสบ "สาลิกาดง" ก็โชว์ฟอร์มสวย เปิดบ้านถล่มอิปสวิช 3-0 ที่สนามเซนต์เจมส์พาร์ก ถือเป็นผลการแข่งขันที่มีนัยสำคัญทั้งหัวตารางและท้ายตาราง
ชัยชนะครั้งนี้ส่งให้นิวคาสเซิลกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในกลุ่มหัวตารางที่มีแต้มเบียดกันแน่น เพื่อชิงสิทธิ์ไปลุยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า ขณะที่อิปสวิช ซึ่งมีนักร้องดัง เอ็ด ชีแรน ร่วมถือหุ้นอยู่ ต้องกลับไปเล่นในเดอะ แชมเปียนชิพอีกครั้ง พร้อมกับเซาแธมป์ตันและเลสเตอร์ ซิตี้ นับเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกันแล้วที่สามทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นต้องตกชั้นทันที
ด้านเชลซี ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 หลังเฉือนชนะเอฟเวอร์ตัน 1-0 จากประตูชัยของนิโกลาส แจ็คสันในครึ่งแรก ตามหลังนิวคาสเซิล 2 แต้ม และแมนเชสเตอร์ ซิตี้เพียงแต้มเดียว
สถานการณ์ลุ้นท็อปไฟว์ยังเปิดกว้าง โดยมีเพียง 5 แต้มเท่านั้นที่แยกนิวคาสเซิลกับแอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 7 ซึ่งไม่ได้ลงเตะในพรีเมียร์ลีกช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีคิวดวลกับคริสตัล พาเลซ ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ
ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ เจมี่ วาร์ดี้ เริ่มต้นการอำลาเลสเตอร์ ซิตี้ (หลังประกาศล่วงหน้าว่าจะย้ายทีมเมื่อจบฤดูกาล) ได้อย่างขมขื่น เมื่อยิงจุดโทษพลาดในเกมที่ทีมพ่ายวูล์ฟแฮมป์ตัน 0-3 โดยมาเตอุส คุนญ่า ที่กำลังตกเป็นข่าวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มเด่น ยิง 1 จ่าย 2 ให้กับวูล์ฟส์
ขณะที่เซาแธมป์ตัน ทีมบ๊วยของตาราง เสียประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พ่ายฟูแล่มคาบ้าน 1-2 ยังคงมีเพียง 11 แต้มเท่าเดิม ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติแต้มต่ำสุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีกของดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อฤดูกาล 2007-08
อีกคู่ ไบรท์ตันสร้างดราม่าช่วงท้ายเกม ยิงสองประตูในนาทีที่ 89 และช่วงทดเวลา พลิกชนะเวสต์แฮม 3-2 ทำให้เวสต์แฮมยังคงไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 7 ติดต่อกันภายใต้การคุมทีมของเกรแฮม พอตเตอร์ อดีตกุนซือไบรท์ตันนั่นเอง