
แม้ลิเวอร์พูลจะใกล้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษเต็มที แต่ในลีกอื่น ๆ ทั่วยุโรป การลุ้นแชมป์ยังคงเข้มข้นและน่าจับตามองไม่แพ้กัน
บรรดาแข้งทีมชาติอังกฤษอย่าง แฮร์รี เคน, เอริก ดายเออร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต่างมีลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับต้นสังกัดเป็นครั้งแรก ขณะที่สองมิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และบิลลี่ กิลมอร์ กำลังล่าแชมป์เซเรีย อา
และนี่คือสถานการณ์ในลีกดังของยุโรปที่กำลังเข้มข้น
บาเยิร์น มิวนิค จะการันตีแชมป์ลีกหากเอาชนะไมนซ์ และเลเวอร์คูเซ่น แชมป์เก่าพลาดท่าพ่ายเอาก์สบวร์กในวันเสาร์นี้
แฮร์รี่ เคน และ เอริค ดายเออร์ กำลังลุ้นแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ ส่วนกุนซือ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ก็หวังพาเสือใต้คว้าโทรฟี่แรกของเขากับทีม
เลเวอร์คูเซ่นของชาบี อลอนโซ่ ตามหลังอยู่ 8 แต้ม โดยเหลือโปรแกรมอีก 4 นัด ขณะที่บาเยิร์นมีผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่าถึง +29
ทั้งสองทีมการันตีโควตาแชมเปียนส์ลีกซีซั่นหน้าเรียบร้อยแล้ว
ที่อิตาลีสถานการณ์ซับซ้อนขึ้นอีกระดับ
อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่ารั้งจ่าฝูง แม้มีแต้มเท่ากับนาโปลี แต่พวกเขาเหนือกว่าด้วยผลต่างประตูได้เสีย
อย่างไรก็ตาม กัลโช่ เซเรีย อา มีกฎใหม่ตั้งแต่ปี 2022 หากสองทีมที่ลุ้นแชมป์หรือหนีตกชั้นจบฤดูกาลด้วยคะแนนเท่ากัน จะต้องแข่งเพลย์ออฟตัดสินแชมป์
ทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้านในนัดชี้ชะตา
เหลืออีก 5 นัดในฤดูกาลปกติ แฟนบอลกำลังจับตาดูว่า สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และบิลลี่ กิลมอร์ จะพานาโปลีเถลิงแชมป์ หรือว่าอินเตอร์ของซิโมเน่ อินซากี้จะย้ำบัลลังก์
บาร์เซโลนา นำหน้าเรอัล มาดริดอยู่ 4 แต้ม และทิ้งอันดับ 3 แอตเลติโก มาดริดถึง 13 แต้ม โดยเหลือโปรแกรมอีก 5 นัด
ศึก “เอล กลาซิโก้” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ณ สนามเอสตาดี้ หลุยส์ กอมปาญส์ อาจเป็นนัดชี้ชะตา หากบาร์ซาเก็บชัยจากเรอัล มาดริด และชนะเรอัล บายาโดลิดในวันที่ 3 พฤษภาคม ขณะที่ราชันชุดขาวสะดุดแพ้เซลต้า บีโก้ในวันที่ 4 พฤษภาคม
แม้จะคว้าทั้งแชมเปียนส์ลีกและลาลีกาฤดูกาลก่อน แต่ปีนี้ เรอัล มาดริดอาจจบด้วยเพียงแชมป์สโมสรโลกที่ชนะปาชูกาเมื่อธันวาคม 2024
ด้านบาร์เซโลนา นักเตะของพวกเขาครองสถิติทั้งดาวซัลโวและแอสซิสต์ — โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ วัย 36 กดไปแล้ว 25 ประตู มากกว่าคีลียัน เอ็มบัปเป้ 3 ลูก ขณะที่เจ้าหนูวัย 17 ลามีน ยามาล จ่ายให้เพื่อนยิงไปแล้ว 12 ครั้ง นำจ่าฝูงแอสซิสต์
สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมเก่าของกุนซือรูเบน อโมริมของแมนฯ ยูไนเต็ด ยึดจ่าฝูงร่วมกับเบนฟิก้า โดยทั้งสองทีมมีแต้มเท่ากัน
ผลต่างประตูได้เสียแยกทั้งคู่เพียง 4 ลูก แต่ลีกโปรตุเกสใช้ "เฮดทูเฮด" เป็นตัวตัดสินหากแต้มเท่ากันหลังจบฤดูกาล
สปอร์ติ้งเคยชนะเบนฟิก้า 1-0 เมื่อเดือนธันวาคม และทั้งคู่จะเจอกันอีกครั้งในนัดรองสุดท้าย ซึ่งอาจเป็นแมตช์ตัดสินแชมป์
หากเฮดทูเฮดเสมอกัน ก็จะใช้ผลต่างประตูได้เสียเป็นเกณฑ์ถัดไป
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กำลังจะคว้าแชมป์ลีกเนเธอร์แลนด์ครั้งแรกกับอาแจ็กซ์ หลังทีมของเขานำหน้าอยู่ 6 แต้ม
อาแจ็กซ์ยังไม่ได้แชมป์ลีกเลยนับตั้งแต่ยุคของเอริก เทน ฮาก เมื่อปี 2021
อย่างไรก็ตาม แชมป์เก่า พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ยังไม่ยอมแพ้ โดยพวกเขาเหลืออีก 5 นัด ส่วนอาแจ็กซ์เหลือ 4 นัด
หากแต้มเท่ากัน จะใช้ผลต่างประตูได้เสียเป็นตัวชี้ชะตา ซึ่งตอนนี้พีเอสวีมีผลต่างประตูที่ดีกว่ามาก
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าแชมป์ลีกเอิงเรียบร้อย เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน
แต่เรื่องยังไม่จบง่าย ๆ เพราะการแย่งชิงโควตายุโรปยังคงดุเดือด โดยมีถึง 6 ทีมที่มีลุ้นไปเล่นแชมเปียนส์ลีก
ทั้งมาร์กเซย, โมนาโก, ลีลล์, นีซ, ลียง และสตราส์บูร์ก ยังมีโอกาส โดยเหลือโปรแกรมอีกเพียง 4 นัด