14 มีนาคม 2568 “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ดำเนินการเรียกประชุมสภากรรมการ ครั้งที่ 4/2568 แบบเร่งด่วน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร FA Thailand หัวหมาก หลังมีวาระสำคัญที่ต้องนำเข้าสู่สภากรรมการเพื่อพิจารณา
โดยเฉพาะในเรื่องของ การขออนุมัติการฟ้องไล่เบี้ย อดีตนายกสมาคมฯ และ ผู้บริหารชุดเดิม จากคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีระหว่าง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ฟ้อง สมาคมฯ ซึ่งศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา ออกมาเรียบร้อย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ให้ สมาคมฯ จ่ายค่าเสียหายให้แก่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จำนวน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว เกิดขึ้นในสมัยกรรมการชุดเดิม ก่อนที่กรรมการชุดปัจจุบัน เข้ามาบริหารและทำหน้าที่ในสนาม
ล่าสุดมติสภากรรมการ โดยเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภากรรมการทั้งหมด มีมติเห็นชอบ ตามที่ นายกสมาคมฯ เสนอ ให้ดำเนินการฟ้องไล่เบี้ย อดีตนายกสมาคมฯ และ ผู้บริหารชุดเดิม ตามมาตรา 76 ประมวลกฎหมายแพ่ง และ พาณิชย์ ต่อไป รวมถึงอนุมัติการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในการทำเรื่องฟ้องร้องดังกล่าว จนเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังเสนอจัดทำแคมเปญพิเศษ “คนไทย รัก บอลไทย” ก่อนได้รับการเห็นชอบจากมติสภากรรมการเช่นกัน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ เพื่อให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นำไปชำระหนี้สินจากคดีฯ รวมถึง พัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทยในทุกมิติ
โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย จำหน่ายเสื้อยืดคนไทย รัก บอลไทย , การรับบริจาค โดยลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และ กิจกรรมระดมทุน ร่วมกับทั้งภาคเอกชน และ พันธมิตร รวมถึง ผ่านการจัดกิจกรรมการกุศล อาทิ คอนเสิร์ต , ละครเวที และ ฟุตบอลกระชับมิตร โดยรายละเอียดทั้งหมด สมาคมฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ล่าสุดได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ขอคัดถ่ายเอกสาร ลงวันที่ 14 มีนาคม 2568 ใจความว่า ตามที่คุณนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ ได้แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ซึ่งปรากฏข่าวของผมเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ โดยได้กล่าวอ้างว่าผมรับเงินเดือนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดือนละ 1 ล้านบาท มูลค่ารวม 32 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่าคืนกลับมาเป็นเงินบริจาคแล้ว แต่ยังหาหลักฐานไม่เจอ นั้น
ดังนั้น เพื่อความชัดเจนในข้อมูลที่ท่านกล่าวอ้าง จึงขอความอนุเคราะห์จากท่าน ดังนี้
1.ขอทราบรายละเอียดการรับเงินเดือนจากสมาคมฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด จำนวนรวม 32,000,000 บาท ตามที่ท่านการอ้างในการแถลงข่าว และขอรับเอกสารหลักฐานที่มีการจ่ายเงินเดือนให้ผม รวมถึงเอกสารการจ่ายเงินให้กระผมนอกเหนือจากเงินเดือน ในช่วงระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
2.ขอคัดถ่ายเอกสารสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ปีภาษี 2559 - 2566 ของผมที่ออกโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ในช่วงระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งผมได้มีหนังสือขอรับเอกสารจากท่านไปแล้วเมื่อ 1 มกราคม 2568 และมีหนังสือขอทราบความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากสมาคมฯ แต่อย่างใด
3.ผมได้บริจาคเงินที่ได้รับจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ให้แก่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นเช็คหลายครั้ง อาทิ ในปี 2560 เดือนมิถุนายน จำนวน 1,020,000 บาท, เดือน ตุลาคม จำนวน 170,000 บาท, เดือนพฤศจิกายน 2560 จำนวน 170,000 บาท, ปี 2561 เดือนสิงหาคม 1,600,000 บาท, เดือนตุลาคม 3,600,000 บาท ฯลฯ เป็นต้น จึงขอทราบรายละเอียดและขอรับเอกสารการบริจาคเงินของผมให้แก่สมาคมฯ ทุกๆ ครั้งจากท่านด้วย
“จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ และขอความกรุณาส่งเอกสารตามข้อ 1-3 ให้ผมภายใน 7 วัน ซึ่งหวังว่าคงได้ความอนุเคราะห์จากท่าน และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้”
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ได้ยื่นหนังสือดังกล่าวถึงนางนวลพรรณจริง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ ได้รับค่าตอบแทน และค่าเบี้ยประชุม ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของสมาคมฯ รวมเงินเดือนจาก บริษัท ไทยลีก จำกัด แต่จำนวนเงินน้อยกว่าที่นายกสมาคมฯ กล่าวอ้างจำนวนมาก ซึ่งจำนวนรวมของเงินที่ได้รับไม่ถึง 32 ล้านบาท โดยน้อยกว่ามาก ดังนั้นข้อเท็จจริงไม่ตรงตามที่มีการกล่าวอ้างให้ข่าวให้สังคมเข้าใจตนผิด อีกทั้งค่าตอบแทนที่ตนได้รับจากสมาคมฯ ได้มอบคืนให้สมาคมฯ เป็นรูปแบบการบริจาคเป็นระยะตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ก็ไม่ทราบว่าคำกล่าวอ้างว่าเงินเดือนเดือนละ 1 ล้านบาท รวม 32 ล้านบาทที่ออกไปให้ข่าว มาจากไหน ค่าอะไร จึงจำเป็นต้องทำหนังสือขอคัดถ่ายเอกสารที่เกี่ยวข้องตามที่นายกสมาคมฯ นำมากล่าวอ้าง และทวงถามเอกสารที่ขอไปกับทางสมาคมฯ แต่ถูกเพิกเฉยด้วย โดยของให้ส่งเอกสารให้ตนภายใน 7 วัน