
"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แถลงสรุปผลงานหลังผ่าน 1 ปีเต็ม พร้อมเผยถึงแนวทางการดำเนินการหลังศาลฎีกาตัดสินให้ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ชนะคดีละเมิดสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก และให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 360 ล้านบาท
"มาดามแป้ง" เผยถึงครั้งแรกถึงช่วงแรกที่เข้ามาดำรงตำแหน่งว่า ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบบัญชีและการเงินของสมาคม พบว่าเหลือเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดเพียง 27 ล้านบาท ไม่ได้มีหลายพันล้านเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แถมยังมีหนี้สินที่ต้องชำระอีกกว่า 132 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากยุคที่ "บิ๊กอ๊อด" ทำการกู้ยืมเงินระยะยาวจาก ฟีฟ่า มาใช้ในกิจการของสมาคมฯ โดยเป็นการกู้เบิกรับแบบครั้งเดียวในปี 2563 จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบเงินไทยเป็นมูลค่า 155 ล้านบาท แบ่งจ่าย 10 งวด 10 ปี ส่งผลให้สมาคมฯ จะถูกตัดเงินสนับสนุนจากที่ควรได้รับเงินจากฟีฟ่าปีละ 1.25 ล้านเหรียญ หักหนี้แล้วจะเหลือเพียง 750,000 เหรียญต่อปี ไปจนถึงปี 2573
"ตั้งแต่แป้งเข้ามารับตำแหน่งไม่เคยรับเงินเดือน แต่ในยุคก่อน ท่านรับเงินเดือนจากทั้งสมาคมฟุตบอลและไทยลีก รวม 2 ที่ เป็นจำนวน 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส และส่งผลให้มีการร้องเรียนถึงความเหมาะสม ล่าสุดมีการส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความก่อนได้ผลการพิจารณาว่า นายกสมาคมไม่สามารถรับเงินเดือนได้ เพราะไม่ใช่ลูกจ้างสมาคม เป็นการอาสาเข้ามา" มาดามแป้ง กล่าว
ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ.สมยศ อ้างว่ามีการรับเงินเดือนจริง แต่ได้บริจาคคืนกลับไปให้สมาคมแล้วนั้น มาดามแป้ง บอกว่าถึงตอนนี้ยังไม่พบว่ามีการคืนเงินให้สมาคมแล้ว
มาดามแป้ง กล่าวต่อว่า ส่วนตัวพร้อมจะเดินหน้าฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนเก่า รวมถึงสภากรรมการในชุดนั้น แต่เพื่อความถูกต้อง จากนี้ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมสภากรรมการวาระเร่งด่วน เพื่อขอมติรับรองจากสภากรรมการให้ทำการฟ้องไล่เบี้ยเอาเงินคืนจาก อดีตนายกสมาคมและสภากรรมการชุดที่แล้ว
"จำเลยที่ 2-19 (อดีตนายกสมาคมและสภากรรมการ) ไม่ต้องรับผิดชอบการเงินของสมาคมเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นการกระทำในกรอบอำนาจหน้าที่ พูดง่ายๆคือไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทย์คือสยามสปอร์ต"
"แต่อย่างไรก็ตาม แป้งและฝ่ายกฎหมายศึกษาอย่างเด่นชัดแล้วว่า สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 76 จึงเป็นที่มาว่า แป้งตัดสินใจแล้ว จะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภากรรมการเฉพาะกิจเร่งด่วนเพื่อฟ้องไล่เบี้ยแก่จำเลยที่ 2 และสภากรรมการยุคนั้น"