
บราฮิม ดิอาซ ซัดประตูชัยในนาทีที่ 55 พา เรอัล มาดริด เอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง แอตเลติโก มาดริด 2-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อีกคู่หนึ่ง อาร์เซนอลก้าวเข้าใกล้รอบก่อนรองชนะเลิศ หลังบุกถล่มพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 7-1
และนี่คือประเด็นที่น่าสนใจจากเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา
เรอัล มาดริด ยังคงครองความเหนือกว่าในมาดริดดาร์บี้บนเวทีฟุตบอลยุโรป ด้วยการเอาชนะแอตเลติโก 2-1 โดยเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับทีมราชันชุดขาวในถ้วยยุโรป
แอตเลติโกเคยพ่ายให้กับแชมป์ยุโรป 15 สมัยทีมนี้มาแล้วทั้งในรอบชิงชนะเลิศ และชนะได้เพียง 3 จาก 11 นัดที่พบกันในการแข่งขันของยูฟ่า
เรอัล มาดริดขึ้นนำก่อนจาก โรดรีโก ในนาทีที่ 15 หลังจาก เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ จ่ายบอลทะลุแนวรับให้เจ้าตัวลากเข้าไปยิงอย่างสวยงาม
แอตเลติโกตีเสมอในนาทีที่ 32 จากจังหวะที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ได้บอลทางซ้าย ก่อนตัดเข้ากลางและยิงผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์ เป็นประตูที่ 7 ของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้
อย่างไรก็ตาม บราฮิม ดิอาซ กลายเป็นฮีโร่ของมาดริดเมื่อโชว์ลีลาลากบอลผ่านกองหลังแอตเลติโก ก่อนปั่นโค้งเข้าเสาไกลให้ราชันชุดขาวคว้าชัย
ในอีกคู่หนึ่ง อาร์เซนอล ถล่มพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 7-1 ซึ่งยูฟ่าระบุว่านี่เป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดในรอบน็อกเอาต์ของแชมเปียนส์ลีก
อาร์เซนอล ได้ประตูนำก่อนจาก ยูเรียน ทิมเบอร์ ก่อนเดินหน้าสู่ฟอร์มเก่ง โดย เอธาน วาเนรี ยิงประตูที่สองให้ทีมในนาทีที่ 21 ก่อนที่ มิเกล เมริโน จะทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-0
แม้พีเอสวีจะได้ประตูจากจุดโทษของ นัว ลัง ก่อนจบครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังอาร์เซนอลโชว์ฟอร์มเหนือชั้น โดย มาร์ติน โอเดการ์ด ยิงสองประตู ขณะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ริคคาร์โด คาลาฟิโอรี ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
"นี่เป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา ในทัวร์นาเมนต์ที่เรารักและพลาดมานานหลายปี" มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล กล่าว
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เสมอกับ ลีลล์ 1-1 หลังจาก ฮาคอน อาร์นาร์ ฮารัลด์สสัน ยิงประตูตีเสมอให้ทีมจากฝรั่งเศส
ส่วนแอสตัน วิลล่า คว้าชัยชนะนัดเยือนเหนือ คลับ บรูช 3-1 โดยได้ประตูชัยจากการทำเข้าประตูตัวเองของ แบรนดอน เมเคเล ก่อนที่ มาร์โก อเซนซิโอ จะสังหารจุดโทษปิดท้าย