
ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รอบสุดท้าย หรือ 2025 AFC U-20 Asian Cup กลุ่มดี นัดที่สาม ทีมชาติไทย U20 ลงสนามพบกับ ซีเรีย
สองเกมแรก ทีมชาติไทย พ่าย ญี่ปุ่นมา 0-3 และ พ่าย เกาหลีใต้ 1-4 ส่วนซีเรีย แพ้เกาหลีใต้ มา 1-2 และเสมอ ญี่ปุ่น 2-2
เกมนี้ เอเมอร์สัน เปไรร่า เปลี่ยน 11 ตัวจริงเล็กน้อย แต่ยังมีแกนหลักอย่าง ยศกร บูรพา, ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย และ พงศกร สังขโสภา
ท้ายครึ่งแรกไทยเหลือสิบคน หลัง อานัส สำราญ ออกมาพลาดและไปทำฟาวล์ และผู้ตัดสินก็ให้ใบแดงทันที และทำให้ไทย ต้องเปลี่ยน ประพจน์ จงเจริญ ลงไปเล่นแทน จิระพงษ์ พึ่งวีระวงศ์ และจบครึ่งแรก เสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลัง นาที 52 จากลูกเตะมุม ที่แนวรับไทยสกัดมาเข้าทาง อาหมัด อัล คาลู ยิงสวนเข้าไปให้ ซีเรีย นำก่อน 1-0
นาที 71 อานัส ดาฮาน ได้ลากตะลุยขึ้นมาก่อนจ่ายให้ โมฮัมหมัด อัลมุสตาฟา ได้ยิงเดี่ยวๆเข้าไปให้ ซีเรีย นำห่างเป็น 2-0
แต่นาที 73 จากจังหวะหลุดขึ้นมาของธนาวุฒิ โพธิ์ชัย ก่อนจะสับหลอกแล้วยิงด้วยซ้ายเข้าไปให้ ไทยไล่มาเป็น 1-2
นาที 81 ไทยมาได้ประตูตีเสมอจากบอลยาว ก่อนที่ ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย จะยิงจังหวะแรกไปติดเซฟแล้วซ้ำเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
จบเกม ทีมชาติไทย U20 เสมอกับ ซีเรีย ไป 2-2 เก็บ 1 คะแนนในรายการชิงแชมป์เอเชีย ส่วนผลอีกคู่ ญี่ปุ่น เสมอกับ เกาหลีใต้ 1-1 และจูงมือกันเข้ารอบแปดทีมสุดท้าย
หลังจบเกม เอเมอร์สัน เปไรร่า หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า "วันนี้ทีมเราเล่นได้ดีมาก ถ้ามี 11 ต่อ 11 เราชนะแน่นอน เพราะครึ่งแรก เราสร้างโอกาสได้เยอะมาก ผมคิดว่าน่าจะประมาณ 5-6 ครั้ง ผมภูมิใจในตัวนักเตะที่สู้อย่างเต็มที่ตลอด 90 นาที แต่การเล่น 10 คน เจอกับ 11 คน มันยากมาก และเราจบทัวร์นาเมนต์ ด้วยการแสดงพาสชั่นของเราออกมา"
"ก่อนที่เราจะเดินทางมาที่นี่ เรามีความคาดหวังที่สูงมาก เรามีเกมอุ่นเครื่องกับ จีน, กาตาร์ และ อิรัก เราเล่นได้ดีมาก แต่การเจอกับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เราไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่ดีออกมาได้ แต่โอเคเป็นประสบการณ์ที่ดี เราพยายามทำให้ดีที่สุด ในทุกๆเกม"
"เราพยายามดูวีดีโอการเล่นของซีเรีย ที่เขาพยายามเล่นบอลยาวตลอดเวลา เราพยายามเตรียมตัวมารับมือกับสถานการณ์นี้ เราคุมเกมได้ดีในครึ่งแรก แต่มันก็ยากกับการเล่น 10 คน เจอ 11 คน"
"เรามีปัญหาในการแย่งชิงพื้นที่ ในเกมกับญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ แต่เราทำได้ดี เราพยายามสู้ แต่ความเข้มข้นของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มันต่างกัน พวกเขามีคุณภาพสูง พวกเขาแทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย เราพยายามอย่างเต็มที่ทุกนัด และผมภูมิใจนักเตะชุดนี้"
"มันยากที่จะพูดถึงสถานการณ์ที่ผู้รักษาประตูของเราโดนไล่ออก มันเป็นแค่ 1 ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาต้องการออกมาช่วยนอกกรอบเขตโทษ มันเกิดขึ้นได้ นี่คือฟุตบอล สำหรับเราซีเรีย พวกเขาเล่นได้ดี ในการเจอกับ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น พวกเขาคิดว่าการเจอเรามันง่าย แต่ในเกมระดับนี้ ไม่มีเกมไหนที่ง่าย 11 ต่อ 11 ในสนาม มันเกิดอะไรขึ้นได้หลายอย่าง"
หลังจากนี้ ทีมชาติไทย U20 จะเดินทางกลับในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 19.20 น.
ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์ปิดโปรเจกต์พิเศษ ช้างศึก x บุรีรัมย์ โดยระบุว่า ขอขอบคุณสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ดูแล และ ให้การสนับสนุน ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี อย่างเต็มที่ตลอด 2 ปี หลังจบภารกิจในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบสุดท้าย ที่ประเทศจีน เป็นที่เรียบร้อย ยืนยันหลังจากนี้ สมาคมฯ พร้อมนำทีมชุดนี้ กลับมาบริหารเหมือนเดิม เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของทีมชาติไทย ต่อไปในอนาคต
สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงนามบันทึกข้อตกลงนำทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ไปบริหาร ตั้งแต่ปี 2022 ในโปรเจกต์พิเศษ "ช้างศึก x บุรีรัมย์" โดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในประเทศเองทั้งหมด อาทิ แคมป์การฝึกซ้อม , ค่าใช้จ่ายทีมงานสตาฟฟ์โค้ช , เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และ การดูแลทีมอุ่นเครื่อง ตามที่ สมาคมฯ เชิญมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้เห็นถึงความมุ่งมั่น , จริงจัง และ จริงใจในการเข้ามาดูแลทีมชุดนี้ มาโดยตลอด
สุดท้ายนี้ ในนามของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณ นักกีฬาทุกคน สตาฟฟ์โค้ชทุกคน เจ้าหน้าที่ และผู้บริหารของ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคนอีกครั้ง ในความมุ่งมั่น ทุ่มเท และ ความพยายามทำเพื่อฟุตบอลไทย ตลอด 2 ปี ผลการแข่งขันทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกีฬา แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่จะติดตัว นักกีฬาทุกคน คือ ความมีระเบียบวินัย และ ความเป็นมืออาชีพ ตามแนวทางของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเติบโตเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยต่อไป
สำหรับโปรเจกต์พิเศษ ช้างศึก x บุรีรัมย์ หรือที่เรียกว่า แผน "บุรีรัมย์ Blue Lock" ที่เป็นโปรเจกต์เฟ้นหาเด็กอายุ 17 ปี ที่ดีที่สุด 20 คน มากินอยู่ในแคมป์และซ้อมอย่างมืออาชีพเป็นเวลาต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอล U20 ชิงแชมป์เอเชีย และเพื่อเป้าหมายในการไปเล่นฟุตบอลโลก U20 รอบสุดท้าย ในปี 2025