svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจจากศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ โดยคู่เอก เรอัล มาดริด ย้ำแค้นเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ขณะที่ ยูเวนตุส โดน พีเอสวี เขี่ยตกรอบ พร้อมเส้นทางในรอบต่อไปว่าใครจะมีโอกาสเจอใคร

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำแฮตทริก ขณะที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ต้องนั่งชมเกมจากม้านั่งสำรองเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ก่อนที่ เรอัล มาดริด จะเขี่ย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้สำเร็จ

เอ็มบัปเป้โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการทำคนเดียว 3 ประตูในนาทีที่ 4, 33 และ 61 ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" เอาชนะไป 3-1 และผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 6-3

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

เอ็มบัปเป้ โชว์คลาส

ประตูแรกของเอ็มบัปเป้ในรอบเพลย์ออฟเกิดขึ้นจากจังหวะที่โชคช่วย ลูกยิงพลาดของเขากลายเป็นลูกชิพข้ามมือเอแดร์ซอนในเกมแรกที่จบลงด้วยชัยชนะ 3-2 ของมาดริด

ในเกมที่ซานติอาโก เบร์นาเบว เอ็มบัปเป้แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาด ประตูแรกของเขาเป็นการยิงชิพข้ามตัวเอแดร์ซอนที่ออกมาปิดมุมเร็วเกินไป ตามด้วยลูกยิงต่ำหลังจากที่ทิ้ง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ไว้บนพื้นสนาม

ประตูที่สามเป็นลูกยิงด้วยซ้ายสุดแรงจากนอกกรอบเขตโทษ ขณะที่เขาดึงแนวรับแมนฯ ซิตี้ถึง 6 คนให้มารุมล้อมเขา

"ผมเคยบอกเสมอว่าผมไม่ได้มาที่นี่แค่เพื่อเติมเต็มความฝัน" เอ็มบัปเป้ กล่าว "ผมต้องการสร้างประวัติศาสตร์"

"นี่เป็นฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบ ทั้งเกมรุก เกมรับ เล่นได้ดีทั้งตอนมีบอลและไม่มีบอล เราแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในระดับสูงสุด" คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เรอัล มาดริดกล่าว "เป็นค่ำคืนที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ"

ขณะที่หนึ่งในกองหน้าระดับซูเปอร์สตาร์อย่างเอ็มบัปเป้โชว์ฟอร์มเด็ด อีกหนึ่งสตาร์อย่างฮาลันด์กลับต้องนั่งชมเกมจากข้างสนาม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งได้รับจากเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ขณะที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ซึ่งขาดผู้เล่นสำคัญอย่าง โรดรี ที่บาดเจ็บยาวตั้งแต่เดือนกันยายน และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวจริง ดูเหมือนจะไม่ใช่ทีมที่น่าเกรงขามเหมือนช่วงสามปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่พวกเขาพบมาดริด ผู้ชนะมักจะก้าวไปคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

เปแอสเชถล่มแบรสต์ 2 นัด 10 ลูก

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถล่มคู่แข่งร่วมลีกอย่างแบรสต์ 7-0 ในนัดที่สอง ทำให้ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 10-0 โดยพวกเขาจะพบกับผู้ชนะระหว่างลิเวอร์พูลหรือบาร์เซโลนาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เปแอสเชไม่แพ้ใครเลยตั้งแต่พ่ายบาเยิร์น มิวนิค ในแชมเปียนส์ลีกเมื่อสามเดือนก่อน และรอบเพลย์ออฟกับแบรสต์ก็เป็นเพียงงานง่าย ๆ สำหรับพวกเขา

ด้าน แบรสต์ ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลแรกของพวกเขาในเวทียุโรป ต้องยอมรับว่าต้านไม่ไหวจริงๆ 

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

พีเอสวี ต่อเวลาเขี่ย ยูเวนตุส ร่วง

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เป็นทีมเดียวในรอบเพลย์ออฟที่ต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลา โดยไรอัน ฟลามิงโก้ ทำประตูในนาทีที่ 98 ช่วยให้พีเอสวีชนะ 3-1 และผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-3 ขณะที่ ทิโมธี เวอาห์ ทำประตูปลอบใจให้ยูเวนตุส

"เราพลาดเองจริง ๆ" เวอาห์กล่าว "พวกเขามีความดุดันมากกว่า และเราขาดความกระหายที่จะเอาชนะ"

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

ดอร์ทมุนด์ vs. สปอร์ติ้ง: สถานการณ์หลังการเปลี่ยนโค้ช

ก่อนที่ รูเบน อโมริม จะออกจากทีมไปคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทำผลงานได้ดีในแชมเปียนส์ลีก ไม่แพ้ใครในสี่เกม และรั้งอันดับสองของตารางลีกยุโรป 36 ทีม

แต่หลังจากที่เขาจากไป สปอร์ติ้งกลับไม่ชนะเลยในหกเกมที่เหลือภายใต้การคุมทีมของโค้ชสองคนที่แตกต่างกัน

ในขณะที่ดอร์ทมุนด์ซึ่งเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาลเช่นกัน แต่ นิโก้ โควัช กลับพาทีมคว้าชัยชนะในเวทียุโรปสองนัด แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ติดต่อกันในบุนเดสลีกาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สปอร์ติ้งยังมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเล่นในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า โดยพวกเขานำเป็นจ่าฝูงของลีกโปรตุเกส ขณะที่ดอร์ทมุนด์อยู่ถึงอันดับที่ 11 ในบุนเดสลีกา และอาจต้องคว้าแชมป์รายการนี้เท่านั้นเพื่อผ่านเข้าไปเล่นในฤดูกาลหน้า

เก็บตก UCL เพลย์ออฟ "เรอัล มาดริด" เขี่ย "แมนซิตี้" ร่วง

สรุป 16 ทีมในรอบน็อกเอาต์ ใครมีโอกาสจะได้เจอใคร

เรอัล มาดริด, เปแอสเช, ดอร์ทมุนด์ และพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เดินหน้าเข้าร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค, เบนฟิก้า, คลับ บรูช และ เฟเยนูร์ด ซึ่งผ่านเข้ารอบไปก่อนหน้านี้ในฐานะทีมที่ชนะเพลย์ออฟ

ขณะที่ทีมที่ได้สิทธิ์เป็นทีมวาง ได้แก่ ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลนา, อาร์เซนอล, อินเตอร์ มิลาน, แอตเลติโก มาดริด, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ลีลล์ และ แอสตัน วิลลา ซึ่งจะได้เล่นเกมเหย้าในเลกที่สอง

สำหรับคู่แข่งที่มีโอกาสพบกันในรอบน็อกเอาต์ มีดังนี้

  • ลิเวอร์พูล (แชมป์ลีก) หรือ บาร์เซโลน่า (ทีมอันดับ 2) มีโอกาสพบกับ เปแอสเช (ทีมอันดับ 15) หรือ เบนฟิก้า (ทีมอันดับ 16)
  • ลีลล์ (ทีมอันดับ 7) หรือ แอสตัน วิลล่า (ทีมอันดับ 8) มีโอกาสพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ทีมอันดับ 10) หรือ คลับ บรูช (ทีมอันดับ 24)
  • แอตเลติโก มาดริด (ทีมอันดับ 5) หรือ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (ทีมอันดับ 6) มีโอกาสพบกับ เรอัล มาดริด (ทีมอันดับ 11) หรือ บาเยิร์น มิวนิค (ทีมอันดับ 12)
  • อาร์เซน่อล (ทีมอันดับ 3) หรือ อินเตอร์ มิลาน (ทีมอันดับ 4) มีโอกาสพบกับ พีเอสวี (ทีมอันดับ 14) หรือ เฟเยนูร์ด (ทีมอันดับ 19)

สำหรับการจับสลากประกบคู่ จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.พ. 68 ซึ่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะเตะกันแบบเหย้า-เยือน นัดแรก แข่งขันวันที่ 4 และ 5 มี.ค. 68 ส่วน นัดสอง เตะในวันที่ 11 และ 12 มี.ค. 68