สรุปผล-ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก หลัง "อาร์เซน่อล, แมนซิตี้" คว้าชัย

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 15 ก.พ.68 อาร์เซนอลไม่ปล่อยให้ปัญหาอาการบาดเจ็บขัดขวางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมี มิเกล เมริโน่ เป็นฮีโร่เหมาคนเดียวสองประตู ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" ขยับไล่จี้จ่าฝูง ลิเวอร์พูล เหลือ 4 คะแนน  

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ โอมาร์ มาร์มูช ทำแฮตทริกพาทีมเปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิล 4-0 เก็บชัยชนะสำคัญในศึกชิงท็อปโฟร์  

• เมริโน่ สวมบทฮีโร่พาปืนใหญ่คว้าชัย

มิเกล อาร์เตต้า ต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนผู้เล่นแนวรุก เนื่องจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหลังจากการบล็อกลูกยิงระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมที่ดูไบ ขณะที่ กาเบรียล เชซุส, บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ต่างก็อยู่ในลิสต์อาการบาดเจ็บเช่นกัน  

เกมที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ดูเหมือนว่า อาร์เซนอล อาจพลาดโอกาสไล่กดดันลิเวอร์พูล เนื่องจากหาทางเจาะแนวรับของเลสเตอร์ไม่เข้า อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายเกม อาร์เตต้าแก้เกมด้วยการส่ง มิเกล เมริโน่ ลงสนามในบทบาทกองหน้าจำเป็น และการตัดสินใจนี้ได้ผลเกินคาด  

นาทีที่ 81 อีธาน วาเนรี่ เปิดบอลจากด้านข้างเข้าเขตโทษให้ เมริโน่ โฉบเข้ามาโหม่งเต็มศีรษะผ่านมือ มัดส์ เฮอร์มันเซ่น เข้าไปตุงตาข่าย  

ถัดมาอีก 7 นาที เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดบอลโค้งเข้าไปหน้าประตู เมริโน่ เติมขึ้นมาแปจ่อ ๆ ไม่พลาด ส่งให้ อาร์เซนอล เก็บชัยชนะ และยืดสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 15 นัดติดต่อกัน  

"ครึ่งแรกเราเล่นผิดพลาดหลายอย่าง ทำให้เสียจังหวะของเกมไป แต่ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นมาก" อาร์เตต้า กล่าวหลังจบเกม  

• มาร์มูชแจ้งเกิด พาแมนฯ ซิตี้ไล่ถล่มนิวคาสเซิล  

ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม โอมาร์ มาร์มูช ซัดแฮตทริกแรกในสีเสื้อแมนฯ ซิตี้ หลังย้ายมาจาก ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต ในตลาดเดือนมกราคม  

ดาวยิงชาวอียิปต์ที่ก่อนหน้านี้ปืนฝืดมา 4 นัดติด ปลดล็อกประตูแรกให้ตัวเองในนาทีที่ 19 จากจังหวะที่ เอแดร์ซอน เตะเปิดเกมยาวขึ้นหน้า และมาร์มูชสปีดไปรับบอล ก่อนโชว์ความเหนือชั้นชิพข้ามตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า เข้าไปอย่างสวยงาม  

ถัดมาอีก 5 นาที มาร์มูช ได้บอลในเขตโทษก่อนซัดเต็มแรง บอลแฉลบ คีแรน ทริปเปียร์ เปลี่ยนทางเข้าไปให้เจ้าตัวกดเบิ้ลอย่างรวดเร็ว  

ความร้อนแรงของแข้งวัย 26 ปี ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น นาทีที่ 33 ซาวินโญ่ จ่ายทะลุช่องให้ มาร์มูช ได้จังหวะส่องเน้น ๆ ในเขตโทษ ส่งบอลเข้าตาข่ายอย่างเฉียบขาด กลายเป็นแฮตทริกแรกในอาชีพของเจ้าตัว  

เจมส์ แม็คอาที มาบวกประตูปิดท้ายให้แมนฯ ซิตี้ ในนาทีที่ 84 ส่งให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาโชว์ฟอร์มดุดันอีกครั้ง หลังเพิ่งพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 2-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟเลกแรก  

อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายของ "เรือใบสีฟ้า" คือ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ได้รับบาดเจ็บที่เข่าในช่วงท้ายเกม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโอกาสเข้ารอบยุโรปของทีม โดยพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน เรอัล มาดริด ในเกมเลกสองวันพุธนี้  

"วันนี้เราเล่นได้ในแบบที่เราเคยเป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราขาดหายไปตลอดฤดูกาลนี้" กวาร์ดิโอล่า กล่าวหลังเกม  

ด้าน นิวคาสเซิล ที่แพ้หมดรูป ตกไปอยู่ที่ 7 ของตาราง โดยมีคะแนนตามหลังโซนท็อปโฟร์ 3 แต้ม  

• ฟูแล่มโชว์ความแข็งแกร่ง

ฟูแล่มแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศ โดยสองประตูจากลูกโหม่งช่วยให้พวกเขาคว้าชัย 2-1 เหนือน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมลุ้นท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก

คริส วู้ด ยิงประตูที่ 18 ของเขาในฤดูกาลนี้ที่คราเวน คอตเทจ แต่ไม่เพียงพอสำหรับทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เมื่อ เอมิล สมิธ โรว์ และ คาลวิน บาสซีย์ โหม่งทำประตูให้ฟูแล่ม คว้าชัย และเปิดโอกาสให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และบอร์นมัธ ขยับเข้าใกล้ฟอเรสต์ในอันดับสาม

นี่เป็นชัยชนะนัดที่สามติดต่อกันของฟูแล่มในทุกรายการ หลังจากที่พวกเขาเอาชนะนิวคาสเซิลในลีกและวีแกนในศึกเอฟเอ คัพเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ด้าน ฟอเรสต์ แม้เพิ่งถล่มไบรท์ตัน 7-0 ในนัดล่าสุดของพรีเมียร์ลีก แต่ความผิดพลาดในการจ่ายบอลแดนกลาง และการตั้งรับลึกเกินไป ทำให้พวกเขาเผชิญกับความกดดันจนไม่สามารถรักษาฟอร์มเดิมได้

มาร์โก ซิลวา กุนซือของฟูแล่ม กล่าวชื่นชม อดาม่า ตราโอเร่ เป็นพิเศษ โดยระบุว่าเขา "แทบจะหยุดไม่อยู่" โดยเฉพาะกับลูกเปิดที่ช่วยให้สมิธ โรว์ทำประตูแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในการเปิดบอลคุณภาพของเขาในเกมนี้

• วิลล่าเสมออิปสวิชที่เหลือ 10 คน

เลียม ดีแลป ทำประตูช่วยให้อิปสวิช ทาวน์ คว้าผลเสมอ 1-1 กับแอสตัน วิลล่า แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนหลังจาก อักเซล ตวนเซเบ้ โดนใบแดง

โอเล่ วัตกิ้นส์ ยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 69 ให้กับวิลล่า ขณะที่อิปสวิชยังคงอยู่ในโซนตกชั้นในอันดับ 18 มี 17 คะแนน ตามหลังวูล์ฟแฮมป์ตัน 2 คะแนน ส่วนวิลล่าหล่นไปอยู่ที่อันดับ 9 มี 38 คะแนน

ตวนเซเบ้ ถูกไล่ออกในนาทีที่ 40 หลังจากได้รับใบเหลืองที่สองจากการทำฟาวล์ ยูริ ตีเลอมันส์ นอกกรอบเขตโทษ แต่ดีแลปยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำในนาทีที่ 56

มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง และเกือบทำประตูจากลูกฟรีคิกที่ชนคาน ก่อนที่วัตกิ้นส์จะฉวยโอกาสซ้ำเข้าไป

อูไน เอเมรี่ กุนซือวิลล่า กล่าวถึงแรชฟอร์ดว่า "เขากำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เขาดูสบายมากขึ้น และเขาจะช่วยทีมเราในนัดต่อไป"

• บอร์นมัธส่งเซาแธมป์ตันเข้าใกล้ตกชั้น

ไรอัน คริสตี้ โชว์ฟอร์มเด่นช่วยให้บอร์นมัธขึ้นสู่อันดับ 5 ในพรีเมียร์ลีก หลังจากเอาชนะเซาแธมป์ตัน 3-1 ที่เซนต์ แมรีส์

คริสตี้แอสซิสต์ให้ ดองโก วัตตาร่า ยิงขึ้นนำในนาทีที่ 14 ก่อนที่เขาจะยิงประตูที่สองของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม

มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ยิงปิดท้ายก่อนหมดเวลา 7 นาที แม้ว่า คามัลดีน ซูเลมานา จะทำให้เซาแธมป์ตันมีความหวังเล็กน้อยหลังตีไข่แตกได้

เซาแธมป์ตันแพ้เป็นนัดที่ 20 ของฤดูกาล และยังคงจมอยู่อันดับสุดท้าย มี 10 คะแนนจากโซนปลอดภัย ขณะที่บอร์นมัธกำลังมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปครั้งแรก หลังจากแซงเชลซีและนิวคาสเซิลด้วยผลต่างประตูได้เสีย

อย่างไรก็ตาม อันโดนี อิราโอล่า กุนซือบอร์นมัธกล่าวว่า “ผมไม่สนใจอันดับตอนนี้ เราต้องการแต้มเพิ่มอีกมาก และค่อยดูกันตอนท้ายฤดูกาล”

• เวสต์แฮมยังรอเวทมนตร์ของพอตเตอร์

เควิน ชาเด้ ยิงประตูตั้งแต่ต้นเกมช่วยให้เบรนท์ฟอร์ดเอาชนะเวสต์แฮม 1-0 ทำให้ เกรแฮม พอตเตอร์ ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมได้ตามที่หวัง

เวสต์แฮมมีเวลาถึง 12 วันในการฝึกซ้อมกับกุนซือใหม่ หลังจากแพ้เชลซี 2-1 ในนัดก่อน แต่กลับเล่นได้แย่ลง

เบรนท์ฟอร์ดครองเกมในครึ่งแรก ยิงเข้าตาข่ายไปสองลูกแต่ถูกริบคืน และยิงชนเสาอีกครั้ง ส่วนเวสต์แฮมดูไร้พลังและไม่สามารถต้านทานได้

ประตูเดียวของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 4 จากจังหวะสวนกลับของเบรนท์ฟอร์ด ไบรอัน เอ็มเบวโม่ โหม่งชงให้ชาเด้ยิงผ่าน อัลฟงส์ อาเรโอล่า เข้าประตู แม้ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส จะพยายามสกัดออกจากเส้นก็ตาม

พอตเตอร์กล่าวว่า “ครึ่งแรกเราเล่นได้แย่มาก และยังไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราต้องการเลย” ขณะที่โธมัส แฟรงค์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ดกล่าวว่า “เราน่าจะนำ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก”

สรุปตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก