svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"โจเซฟ สคูลลิ่ง" ก้าวที่พลาดมหันต์ของฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก

02 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนเส้นทางชีวิตของ "โจเซฟ สคูลลิ่ง" ฮีโร่นักว่ายน้ำของชาวสิงคโปร์ จากดาวรุ่งผู้โค่น "ไมเคิ่ล เฟลป์ส" จนคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2016 แต่กลับหลงระเริงกับชื่อเสียงจนก้าวสู่การพัวพันกับยาเสพติด และล่าสุดได้ประกาศอำลาสระเรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการ

ในวงการว่ายน้ำโลกช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครไม่รู้จัก "ไมเคิ่ล เฟลป์ส" ฉลามหนุ่มชาวอเมริกันเจ้าของ 23 เหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์ 5 สมัย เรียกว่าในยุคนั้นแทบไม่มีใครจะสามารถเอาชนะเขาได้ 

อย่างไรก็ตามในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล มีนักว่ายน้ำคนหนึ่งที่ชนะ เฟลป์ส ได้ ในการแข่งขันประเภทผีเสื้อ 100 เมตร นั่นคือ "โจเซฟ สคูลลิ่ง" ฉลามหนุ่มชาวสิงคโปร์ กลายเป็นการแข่งประเภทเดียวที่ เฟลป์ส พลาดเหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนั้น และยังเป็นเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์อีกด้วย 

จากผลงานดังกล่าวทำให้ โจเซฟ สคูลลิ่ง ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในตำนานของวงการว่ายน้ำโลกคนต่อไป แต่ชีวิตหลังจากนั้นเขากลับไม่ประสบความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย กระทั่งประกาศอำลาสระไปในที่สุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา

เกิดอะไรขึ้นกับยอดนักกีฬาผู้นี้กันแน่?

โจเซฟ สคูลลิ่ง หลงรักการว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ยอดนักกีฬาในครอบครัวนักกีฬา
โจเซฟ สคูลลิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 1995 เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของครอบครัวที่เป็นนักกีฬาหลายต่อหลายคน โดยคุณแม่ของเขาเคยเป็นนักเทนนิสอาชีพในมาเลเซียก่อนอพยพมาอยู่สิงคโปร์ ส่วนคุณพ่อของเขาก็เคยเป็นนักวิ่งและโปโลน้ำ แถมยังเคยติดทีมชาติในกีฬาซอฟท์บอลอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น โจเซฟ สคูลลิ่ง ยังเป็นเหลนของ ลอยด์ วัลเบิร์ก ซึ่งเป็นนักกีฬาคนแรกของสิงคโปร์ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกในปี 1948 และ วัลเบิร์ก ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ สคูลลิ่ง เอาจริงเอาจังกับการเล่นกีฬา

โจเซฟ สคูลลิ่ง เริ่มหัดว่ายน้ำตั้งแต่ 4 ขวบ และก็หลงรักกีฬาชนิดนี้ทันที ถึงขั้นออกไปซ้อมว่ายน้ำทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมงตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นอย่างดี

ในช่วงวัยประถม สคูลลิ่ง มีความสามารถเกินวัย กวาดแชมป์ในประเทศได้เป็นว่าเล่น อย่างไรก็ตามเมื่อเก็บชัยชนะได้บ่อยครั้งจนเรียกว่า "ไร้คู่ต่อกร" ทำให้เริ่มขาดความทะเยอทะยาน 
 

โจเซฟ สคูลลิ่ง กับ ไมเคิ่ล เฟลป์ส ไอดอลของเจ้าตัวในวัยเด็ก

เอาจริงอีกครั้งหลังพบไอดอล
ในวันที่ โจเซฟ สคูลลิ่ง เริ่มหมดความท้าทาย เขาได้มีโอกาสเจอกับ "ไมเคิล เฟลป์ส" ยอดนักว่ายน้ำอัจฉริยะแห่งยุค ในการร่วมการฝึกซ้อมว่ายน้ำในแคมป์เก็บตัวทีมชาติสหรัฐฯ ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงปักกิ่ง 

ซึ่งหลังจากได้พบกับ เฟลป์ส และได้เห็นการทำลายสถิติเป็นว่าเล่นของเขาใน "ปักกิ่งเกมส์" ทำให้ โจเซฟ สคูลลิ่ง เปลี่ยนความคิดตัวเอง จากที่ตั้งเป้าแค่เป็นนักว่ายน้ำทีมชาติ ไปสู่การวาดฝันอนาคตของตัวเองว่าอยากจะก้าวขึ้นไปเป็นตำนานเหมือนไอดอลของเขา จึงหันกลับมาเอาจริงเอาจังกับการว่ายน้ำอีกครั้ง ครอบครัวของเขาจึงตัดสินใจส่งไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุได้แค่ 13 ปี เพื่อได้มีโอกาสไปฝึกอย่างจริงจังกับครูระดับโลก

ฝีมือในการว่ายน้ำของ สคูลลิ่ง พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ชีวิตในวัยมัธยมก็กวาดชัยชนะเป็นว่าเล่น ขณะที่การแข่งขันในสหรัฐ เขาก็ได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยเท็กซัสในการแข่งขันระดับประเทศ และก็คว้าแชมป์ได้ถึง 12 รายการตลอดการใช้ชีวิต 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย
โจเซฟ สคูลลิ่ง และเพื่อนๆในทีมว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยเท็กซัส
เริ่มสร้างชื่อ
การที่เจ้าตัวเก่งกาจตั้งแต่เด็กในประเทศที่มีประชากรไม่มากนักอย่างสิงคโปร์ ทำให้เจ้าตัวก้าวขึ้นติดทีมชาติอย่างรวดเร็ว และสามารถคว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปีเท่านั้น ก่อนจะเข้าแข่งโอลิมปิก "ลอนดอนเกมส์" ปี 2012 แต่ไม่ได้เหรียญติดมือ กระทั่งซีเกมส์ 2015 สคูลลิ่ง ก็สร้างความฮือฮาด้วยการคว้าถึง 9 เหรียญทอง 

หลังจากนั้นก็แทบจะไม่มีใครโค่นเขาลงอีกเลยในประเภทผีเสื้อ ทั้งในซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ กีฬาเครือจักรภพ และว่ายชน้ำชิงแชมป์โลก

โค่นไอดอลสู่แชมป์โอลิมปิก
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016 "ริโอเกมส์" เป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของ ไมเคิ่ล เฟลป์ส ที่เข้าสู่วัย 31 ปีแล้ว ซึ่งทุกคนต่างก็เชื่อว่าเจ้าตัวจะกวาดแชมป์ได้ครบทั้ง 6 ประเภทที่ลงชิงชัย

แต่กลับกลายเป็นว่า เฟลป์ส ได้มาแค่ 5 เหรียญทอง โดยประเภทที่พลาดแชมป์ไปก็คือ ผีเสื้อ 100 เมตร ที่แพ้ต่อ โจเซฟ สคูลลิ่ง เด็กที่เคยซ้อมด้วยกันในแคมป์เก็บตัวเมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง โดยการแข่งครั้งนั้น สคูลลิ่ง แตะขอบสระเป็นคนแรกด้วยเวลา 50.39 วินาที เป็นสถิติใหม่ของโอลิมปิก เอาชนะ เฟลป์ส ที่ได้เหรียญเงินไป 0.75 วินาที

ชื่อของ โจเซฟ สคูลลิ่ง โด่งดังไปทั่วโลกนับจากนั้น พร้อมกลายเป็นฮีโร่ของประเทศในชั่วข้ามคืน เพราะทำให้ชาวสิงคโปร์ภูมิใจได้ว่าชาติเล็กๆอย่างพวกเขาก็สามารถเอาดีทางกีฬาได้เช่นกัน

ปรากฏการณ์ "สคูลลิ่ง ฟีเวอร์" ระบาดไปทั่วประเทศ พ่อแม่แทบทุกคนต่างส่งลูกไปเรียนว่ายน้ำที่พร้อมใจกันเปิดขึ้นมาใหม่นับร้อยแห่ง 
โจเซฟ สคูลลิ่ง ผู้กลายเป็นฮีโร่ของชาวสิงคโปร์ หลังคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์
วัยระเริง
หลังการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก โจเซฟ สคูลลิ่ง กลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน โดยรัฐบาลสิงคโปร์และภาคเอกชนระดมอัดฉีดให้ถึงกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 200 ล้านบาท เหล่าสินค้านานาชนิดต่างต้องการตัวเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์ แถมยังได้สิทธิผ่อนผันไม่ต้องเป็นทหารไปจนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020 เพื่อให้โฟกัสกับการฝึกซ้อมว่ายน้ำอย่างเต็มที่

บรรดาสินค้านานาชนิดต่างก็พากันเข้ามาสนับสนุน พยายามเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ ตัวของ สคูลลิ่ง ต้องออกงานโชว์ตัวเป็นว่าเล่นแทบทุกค่ำคืน หลายคนพยายามเข้ามาตีสนิท ทั้งที่อยากได้ชื่อว่าเป็น "เพื่อนคนดัง" และที่เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์

โจเซฟ สคูลลิ่ง ก็เริ่มค่อยๆหลงไปกับชื่อเสียงทีละน้อย การฝึกซ้อมเริ่มลดน้อยลง สวนทางกับงานปาร์ตี้และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 7 กิโลกรัมภายในเวลาแค่ปีเดียว ซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลต่อการแข่งขันโดยตรง และไม่สามารถทำสถิติใกล้เคียงกับที่ทำได้ในโอลิมปิก 2016 อีกเลย

ตลอด 4-5 ปีก่อนโอลิมปิก 2020 แม้ โจเซฟ สคูลลิ่ง จะยังคว้าแชมป์ได้อยู่ในการแข่งระดับภูมิภาคอย่างซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ แต่เวลาที่ทำได้นั้นกลับค่อยๆแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการที่เจ้าตัวเรียนจบและตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ในสิงคโปร์บ้านเกิด ก็ทำให้ไม่มีโอกาสฝึกซ้อมกับเทรนเนอร์ระดับโลกเหมือนตอนอยู่ที่สหรัฐฯ โค้ชในสิงคโปร์ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิหรือวิจารณ์ฮีโร่อย่างเขา วินัยในการซ้อมก็ค่อยๆหย่อนยานลงไปเรื่อยๆ ชีวิตประจำวันกลายเป็นการให้น้ำหนักกับงานถ่ายแบบถ่ายโฆษณา ช่วงกลางคืนก็เดินสายตามงานปาร์ตี้และงานโชว์ตัวต่างๆ
โจเซฟ สคูลลิ่ง กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วประเทศ หลังโดนจับได้ว่าเสพกัญชา
สู่จุดต่ำสุดของชีวิต
แม้ สคูลลิ่ง จะเริ่มรู้ตัวและกลับไปซ้อมจริงจังอีกครั้งในช่วงก่อนโอลิมปิก 2020 แต่ก็ดูจะสายเกินไป โดยเจ้าตัวตกรอบคัดเลือกด้วยสถิติเป็นอันดับ 44 จาก 55 คนที่ลงแข่งขัน กลายเป็นผลงานที่ชาวสิงคโปร์เกินจะรับไหว

เสียงวิจารณ์เรื่องสถิติและน้ำหนักตัวกระหึ่มไปทั่วโลกออนไลน์ จากฮีโร่ของประเทศกลับกลายเป็นแค่ตัวตลกในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้ โจเซฟ สคูลลิ่ง ไม่มีความสุขกับการว่ายน้ำอีกต่อไป 

เคราะห์กระหน่ำซ้ำเติมเจ้าตัวอีกในเวลาต่อมา เมื่อคุณพ่อ โคลิน สคูลลิ่ง ที่ผลักดันเขามาตลอด เสียชีวิตลงในปลายปี 2021 ด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ โจเซฟ เสียศูนย์อย่างหนัก จนหาทางออกด้วยการ "เสพกัญชา" ที่ถือเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายร้ายแรงในสิงคโปร์

ระหว่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เวียดนาม ชื่อของ โจเซฟ สคูลลิ่ง กลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วอาเซียน เมื่อถูกจับได้ว่าใช้กัญชา ที่ตามกฎหมายของสิงคโปร์แล้วจะต้องโดนปรับ 14,300 เหรียญสหรัฐฯ และต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี แถมยังมีการเปิดเผยด้วยว่า เจ้าตัวใช้กัญชามาตั้งแต่ช่วงที่เข้าไปเป็นทหารอีกด้วย

โชคยังดีที่ สคูลลิ่ง ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ เหลือเพียงการคุมประพฤติและถูกติดตามผลตรวจปัสสาวะ 6 เดือน หากพบว่ามีผลเป็นบวกแม้เพียงครั้งเดียวก็จะต้องโดนโทษเข้าคุกทหารอย่างน้อย 9 เดือนทันที

แม้ โจเซฟ สคูลลิ่ง จะออกมาขอโทษต่อสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็เหมือนจะสายไปแล้ว บรรดาสปอนเซอร์ที่เซ็นสัญญาสนับสนุนต่างก็ทยอยถอนตัวเกือบหมด และเจ้าตัวก็ไม่ได้ลงแข่งว่ายน้ำรายการใดอีกเลยนับจากนั้นเป็นต้นมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 67 โจเซฟ สคูลลิ่ง ก็ประกาศอำลาสระอย่างเป็นทางการด้วยวัย 28 ปี โดยจะขอเบนเข็มไปเปิดโรงเรียนสอนว่ายน้ำของตัวเอง รวมถึงลงทุนทำธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่วมกับเพื่อนๆต่อไป

       "ผมซาบซึ้งกับทุกประสบการณ์ในสระว่ายน้ำที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งชัยชนะที่น่ายินดี ความพ่ายแพ้ที่น่าสมเพช ทั้งหมดนี้ช่วยหล่อหลอมตัวผม และผมจะก้าวไปสู่บทบาทต่อไปของชีวิต"

       "ตอนนี้ผมกระตือรือร้นที่จะออกไปค้นหาแพชชั่นใหม่ๆ เผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกัน แล้วดูว่าชีวิตของผมจะพาไปในทิศทางไหน ขอบคุณผู้สนับสนุนที่อยู่เคียงข้างผมในทุกย่างก้าว ผมหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปด้วยกันในการผจญภัยครั้งใหม่นี้" บางช่วงบางตอนจากโพสต์เปิดใจของ โจเซฟ สคูลลิ่ง

 

logoline