
ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2023/24 ได้เวลาตัดสินแชมป์กันแล้วในคืนนี้ ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เวลา 22.00 น. โดยเป็นการพบกันระหว่าง "สิงห์บลูส์" เชลซี กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
แมตช์นี้ถือเป็นเกมที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของภารกิจสำคัญของพวกเขานับจากวันนี้เป็นต้นไป
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การ เชลซี ขยับขึ้นเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของโลกทุกวันนี้ มาจากการทุ่มทุนอย่างมหาศาลของ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ยอมลงทุนไปกว่า 2 พันล้านปอนด์ตลอดการทำทีม 19 ซีซั่น และเสกให้ทีมคว้าแชมป์รวมถึง 21 รายการ
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้หลายคนต่างให้ความสนใจว่า ณ วันนี้ ที่เชลซีเปลี่ยนเจ้าของทีม จาก "เสี่ยหมี" สู่กลุ่มทุนใหม่ที่นำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ แล้ว ทีมจะยังสานต่อความสำเร็จไว้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม "สิงห์บลูส์" ภายใต้เจ้าของทีมใหม่ ไม่ได้ใช้นโยบายการทุ่มซื้อซูเปอร์สตาร์เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เน้นไปที่การสร้างทีมใหม่ทั้งระบบ ซื้อแต่นักเตะดาวรุ่งอายุน้อยๆแบบไม่เกี่ยงราคา หรืออาจกล่าวได้ว่า เชลซี ในยุคปัจจุบัน คือสโมสรที่รวบรวมนักเตะดาวรุ่งจากทั่วโลกไว้มากที่สุดก็ว่าได้
และนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ คืนนี้ ก็นับเป็นการเข้าชิงครั้งแรกของเหล่านักเตะชุดนี้ด้วย พวกเขาจึงต้องการจะคว้าแชมป์ให้ได้เพื่อเป็นการเริ่มนับ 1 ของภารกิจ "สิงห์บลูส์ยุคใหม่" เช่นเดียวกับตัวกุนซืออย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือฝีมือดีอันดับต้นๆ แต่เจ้าตัวยังไม่เคยคว้าแชมป์ในอังกฤษมาก่อนเลย ดีที่สุดแค่ตำแหน่งรองแชมป์เท่านั้น
ทางฝั่งของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ก็กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่เช่นกัน เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมนี ได้ประกาศขอก้าวลงจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากรู้สึก "หมดพลังงาน" ที่จะทำสิ่งเดิมๆซ้ำๆอีกต่อไป
ซึ่งจากการประกาศดังกล่าว ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ ลิเวอร์พูล ต่างช็อกไปตามๆกัน เนื่องจากพวกเขากำลังจะเสียกุนซือที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรไป หลังจาก คล็อปป์ เข้ามาสร้างทีม กอบกู้สถานการณ์จากสโมสรที่เกือบล้มละลาย จนกลับมาคว้าแชมป์ยุโรป รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
แน่นอนว่าก่อนที่พวกเขาจะได้ตัวกุนซือใหม่ ทั้งนักเตะและแฟนบอลต่างก็หวังให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จให้มากที่สุดในซีซั่นนี้ เพื่อเป็นการอำลา เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สมเกียรติที่สุด โดยจะเริ่มต้นใน คาราบาว คัพ คืนนี้ ก่อนจะไปมองถึงแชมป์อื่นๆอีก 3 รายการที่กำลังมีลุ้นเช่นกัน
ส่วนทีมใดจะทำสำเร็จนั้น รอลุ้นกันในคืนนี้
สภาพความพร้อมล่าสุด
เชลซี
"สิงห์บลูส์" ของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เกมนี้ยังคงไม่มี รีซ เจมส์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, มาร์ก กูกูเรย่า, คาร์นี่ย์ ชุควูเอเมก้า, เลสลี่ย์ อูโกชุควู และ โรเมโอ ลาเวีย ที่เจ็บยาว แต่จะได้ ติอาโก้ ซิลวา ผ่านการทดสอบความฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับ โรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารมือ 1 ที่หายเจ็บเรียบร้อย แต่น่าจะเป็นแค่ตัวสำรองต่อไปเนื่องจาก ยอร์เย่ เปโตรวิช ยังโชว์ฟอร์มได้ดีมาตลอด
ลิเวอร์พูล
"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังขาดตัวหลักไปหลายรายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เบน โด๊ค, สเตฟาน บายเชติช, โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ เคอร์ติส โจนส์ ที่เจ็บอยู่ทั้งหมด ขณะที่ โม ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ โดมินิค โซโบซไล ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมอีกครั้ง
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
เชลซี
ลิเวอร์พูล
ลิงก์ดูบอลสด คาราบาวคัพ เชลซี พบ ลิเวอร์พูล