ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “ก้องศักด” ผู้ว่าฯ-บอร์ด กกท. ร่ำรวย 60.1 ล้านบาท
ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “ก้องศักด ยอดมณี” หลาน “จอมพลถนอม” หลังพ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯ-บอร์ด กกท. วาระแรก มีทรัพย์สินรวม 60.1 ล้านบาท ที่ดิน 20 ล้านบาท บ้าน-ห้องชุด 32.3 ล้านบาท รายได้ต่อปี 4.2 ล้านบาท
13 มกราคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ดร.ก้องศักด ยอดมณี กรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกรรมการ กกท. (บอร์ดกกท.) เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565
ดร.ก้องศักด แจ้งสถานะว่า หย่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 60,140,757 บาท ได้แก่
- เงินสด 3 แสนบาท
- เงินฝาก 159,415 บาท
- เงินลงทุน 130,548 บาท (หุ้นบริษัท สุพงศา จำกัด 129,900 บาท)
- ที่ดิน 2 แปลง 20 ล้านบาท
- โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านและห้องชุด 4 แห่ง 32,381,793 บาท
- ยานพาหนะ 3,969,000 บาท
- สิทธิและสัมปทาน 1.5 ล้านบาท
- ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 1.7 ล้านบาท (เป็นนาฬิกา 2 เรือน 1 ล้านบาท มูลค่ากรมธรรม์ประกันชีวิต 1 รายการ 7 แสนบาท)
- มีหนี้สิน 14,570,153 บาท
ดร.ก้องศักด มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 4,291,841 บาท แบ่งเป็น
- เงินเดือน 2,354,400 บาท
- เงินโบนัส 1,313,699 บาท
- เบี้ยประชุม 456,000 บาท
- ค่าตอบแทนการใช้รถยนต์ประจำตำแหน่ง 381,600 บาท
มีรายจ่ายรวม 1.2 ล้านบาท แจ้งเงินได้พึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร ในข้อมูลการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา 3,307,153 บาท
ก่อนหน้านี้ ระหว่างปี 2558-2561 ดร.ก้องศักด ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สุพงศา จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัว ต่อมาปี 2561-2565 เป็น ผู้ว่ากกท. และกรรมการ กกท. ก่อนจะพ้นจากตำแหน่ง
เปิดประวัติ ก้องศักด ยอดมณี
ดร.ก้องศักด เป็นบุตรของ ร.ท.ดร.สุวิทย์ ยอดมณี กับคุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี (สกุลเดิม กิตติขจร) บุตรสาวของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นนายก้องศักด จึงมีศักดิ์เป็นหลานของจอมพลถนอม
ก้องศักด ยอดมณี เกิดวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2515 มีจำนวนพี่น้อง 3 คน คือ นายสุวงศ์ ยอดมณี นายก้องศักด ยอดมณี และร้อยตรีจักรา ยอดมณี
ดร.ก้องศักด จบการศึกษาระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมปลายจาก โรงเรียนจิตรลดา จากนั้น ปีการศึกษา 2537 ก้องศักด ได้เข้าศึกษาที่ ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปีการศึกษา 2541 เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านกฎหมายพาณิชย์ (LL.M. in Commercial Law), University of Bristol ประเทศอังกฤษ (ทุนธนาคารแห่งประเทศไทย)
ปีการศึกษา 2542 ได้ศึกษาระดับประกาศนียบัตรหลักสูตรต่างๆ ประกาศนียบัตรหลักสูตรเทคนิคการเจรจาต่อรอง สถาบันอนุญาโตตุลาการ
ปีการศึกษา 2543 ประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีการศึกษา 2545 ประกาศนียบัตรหลักสูตร ผู้ตรวจสอบสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปีการศึกษา 2560 จบปริญญาเอก สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
