
Nation Story มีโอกาสได้พูดคุย “บอย ท่าพระจันทร์” ในเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น บทสนทนาไม่ได้หยุดอยู่แค่ "แท้" หรือ "เก๊" แต่มันได้ลากเราเข้าไปสำรวจโลกทัศน์และปรัชญาชีวิต ของชายผู้ที่ยืนหยัดในวงการนี้มานานกว่า 30 ปี เรื่องราวของเขาอาจไม่ใช่แค่เรื่องของวัตถุมงคล แต่มีทั้งบทเรียนธุรกิจและหลักการใช้ชีวิตที่น่าเรียนรู้
"พระแท้ รวยช้าแต่รวยนาน" vs "พระเก๊ รวยวูบวาบ"
นี่คือแก่นปรัชญาที่คมคายที่สุดจากปากของเขา บอยไม่ได้มองพระแท้-พระเก๊แค่ในมิติของโลหะหรือมวลสาร แต่มองมันเป็นภาพสะท้อนของเส้นทางสู่ความสำเร็จ
พระเก๊ : เขาเปรียบมันเหมือน "ธุรกิจสีเทา" ที่ทำเงินได้รวดเร็ว มั่งคั่งแบบ "รวยวูบวาบ" แต่สุดท้ายก็ต้องคืนเงิน เพราะมันตั้งอยู่บน ความไม่ยั่งยืน "คุณขายได้ คุณรวยวูบวาบ แต่สุดท้ายคุณก็ต้องคืนเขาอยู่ดี" เขากล่าว นี่คือสัจธรรมที่คนทำธุรกิจในวัยกลางคนเข้าใจเป็นอย่างดี ชื่อเสียงที่สร้างมายาวนาน อาจพังทลายได้ในพริบตาด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว
พระแท้ : คือสัญลักษณ์ของความยั่งยืน "รวยช้า แต่รวยนาน" การเล่นพระแท้คือการสร้างเครดิต สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้ในระยะยาว มันอาจไม่ทำให้คุณรวยทันใจ แต่จะทำให้คุณยืนหยัดอยู่ในวงการได้อย่างสง่างามและมั่นคง
ทำไมเซียนแท้ไม่กลัวโดนหลอก?
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมเซียนระดับประเทศถึงกล้าจ่ายเงินหลายล้านบาทเพื่อพระเพียงองค์เดียว? คำตอบของคุณบอย เผยให้เห็น Eco-system ของวงการพระเครื่องที่แข็งแกร่ง
เขาอธิบายว่า "ผมไม่ใช่เซียนพระที่ดูพระเป็นคนเดียวในประเทศไทย" ยังมีเซียนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ต้น ท่าพระจันทร์, โทน บางแค หรือ ป๋อง สุพรรณ ถ้าเขาซื้อพระเก๊มาแล้วนำไปขายต่อ สุดท้ายพระองค์นั้นก็จะถูกส่งไปตรวจสอบในงานประกวด หรือส่งเซอร์ฯ และความจริงก็จะปรากฏ ชื่อเสียงของเขาจะเสียหาย และเขาก็ต้องคืนเงินอยู่ดี
นี่คือบทเรียนสำคัญ ในโลกธุรกิจที่โปร่งใสและเชื่อมถึงกัน คุณไม่สามารถหลอกลวงใครได้ตลอดไป "ชื่อเสียง" คือกลไกตรวจสอบที่ดีที่สุด และการรักษาความซื่อสัตย์ไม่ใช่แค่เรื่องของคุณธรรม แต่เป็น "กลยุทธ์" ในการอยู่รอด
อะไรคือสิ่งที่แยก "คนรู้จริง" ออกจาก "เซียนตัวจริง"?
คุณบอย เล่าภาพที่น่าสนใจว่าทุกคนอาจจะท่องทฤษฎีได้เหมือนกันหมดว่า "ข้างเลื่อย ข้างตัด ข้างปั๊ม ข้างกระบอก" เป็นอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจ่ายเงินหลักล้าน หรือสิบล้าน จะเหลือคนที่กล้าจริงๆ ไม่ถึง 10 คน
"เวลาที่คุณเจอ... คุณกล้าจ่ายไหม?"
นี่คือจุดตัดที่แท้จริง มันไม่ใช่แค่ความรู้ แต่คือ "ความกล้า" และ "ความเชื่อมั่น" ในการตัดสินใจของตัวเอง การเป็นเซียนคือการแบกรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้ด้วยตัวเอง ซื้อแท้ ซื้อเก๊ ต้องรับผิดชอบเอง ห้ามคืน นี่คือเกียรติภูมิที่ทำให้คนในวงการยอมรับนับถือ ซึ่งไม่ต่างจากการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานของพวกเรา ที่ต้องเดิมพันด้วยประสบการณ์และความเชื่อมั่นของตนเอง
จรรยาบรรณคือมาตรฐานสูงสุด
เรื่องราวทั้งหมดของ "บอย ท่าพระจันทร์" ไม่ได้สอนให้เราดูพระเป็น แต่สอนให้เรามองเห็นคุณค่าของ "ความแท้" ในทุกมิติของชีวิต ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถาโถมและเรื่องฉาบฉวยเกิดขึ้นได้ทุกวัน ปรัชญาของเขาย้ำเตือนเราว่า ความสำเร็จที่แท้จริงและยั่งยืนไม่ได้มาจากทางลัด แต่มาจากการสร้างตัวตนที่ "แท้" จริง มีมาตรฐาน และยึดมั่นในจรรยาบรรณ จนเป็นที่ยอมรับในที่สุด
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการไหน หลักการ "พระแท้ รวยช้าแต่รวยนาน" ก็ยังคงเป็นสัจธรรมที่ใช้ได้เสมอ