
17 กรกฎาคม 2568 จากพฤติการณ์ของ “สีกากอล์ฟ” ที่ถูกเผยแพร่ออกมาทีละน้อย
ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคำถาม “หัวใจเธอทำด้วยอะไร?” - “เธอเป็นโรคจิตหรือไม่?” และ “ทำไมถึงทำกับพระได้?”
เราคุยกับ รศ.ดร.อำนาจ ยอดทอง นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา ตำแหน่งเต็มๆ ของอาจารย์คือ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนากับการพัฒนา ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
อาจารย์เคยเล่าให้ “เนชั่นทีวี” ฟังว่า “นารีพิฆาต” มี 3 แบบ คือ
แต่อาจารย์บอกว่า ก่อนจะถึงนารีพิฆาต ยังมี 3 รูปแบบที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างพระกับสีกา คือ
จากรูปแบบความสัมพันธ์ และรูปแบบของนารีพิฆาต ถ้าจัดกลุ่มให้กับ “สีกากอล์ฟ” จะพบว่า น่าจะเป็นการกระทำร่วมกันของทั้งพระและสีกา
โดยหากมองในมุมของสีกากอล์ฟ เท่าที่ได้ติดตามพฤติกรรมจากหลักฐานของตำรวจ และคำสัมภาษณ์ต่างๆ ที่เริ่มให้กับสื่อ ประเมินได้ว่า ฝ่ายสีกาน่าจะมีความรู้สึกผสมกัน ระหว่าง “ความรัก” ที่ต้องการชดเชยอะไรบางอย่าง เหมือนมีปมในใจ กับ “ทรัพย์” ซึ่งตนเองก็ต้องการด้วย
อาจารย์อำนาจ ขยายความว่า จุดเริ่มต้นของ สีกากอล์ฟ ที่มีความสัมพันธ์กับพระ หากมองในแง่ดี อาจต้องการมีความสัมพันธ์ด้วยความรู้สึกรักชอบพอจริงๆ ก็ได้ โดยไม่ได้มี “ทรัพย์” หรือ “เงินทอง” เป็นแรงจูงใจ
แต่เมื่อมีความสัมพันธ์แล้วได้เงิน ได้ทรัพย์สิน เพราะพระเปย์ให้ตลอด ตอนหลังจึงได้ใจ และทำผสมทั้งสองอย่าง สรุปก็คือ “สีกากอล์ฟ” เป็นนารีพิฆาต ประเภทแรก คือ หวังเอาทรัพย์ และนารีพิฆาตแบบทั่วไป คือ รักด้วย มีความต้องการ โหยหา ต้องการที่พึ่งทางใจ และต้องการการซัพพอร์ตเรื่องเงิน เพราะมีประวัติใช้เงินเกินตัว แต่ไม่เข้าข่ายเป็นนารีพิฆาตเชิงอำนาจ เพราะสีกากอล์ฟยังต้องอาศัยอำนาจของพระ เพื่อทำให้ตนเองมีรายได้
ส่วนพฤติการณ์ “คบซ้อน” และขยายเครือข่ายไปเรื่อยๆ นั้น อาจารย์อำนาจ บอกว่า เป็นการแอดวานซ์ของ “สีกากอล์ฟ” เอง กล่าวคือ ตัวเองใช้ชีวิตใกล้ชิดกับพระมาก ทำให้รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของพระ คำพังเพยโบราณเรียกว่า “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่”
กล่าวคือ เวลา "สีกากอล์ฟ" ติดต่อเข้าไปหาพระ ตัวเองจะรู้เลยว่า พระรูปนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของตนหรือไม่ ปิดจ๊อบได้หรือเปล่า เหมือนคนขายประกัน ที่พอเข้าไปคุย จะรู้ทันทีเลยว่า คนนี้จะซื้อประกันหรือไม่ เรียกว่าทำจนเกิดความชำนาญ สามารถวิเคราะห์ได้ เวลาคุยกับพระปุ๊บ จะรู้เลยว่าปิดจ๊อบพระรูปนี้ได้หรือเปล่า
สาเหตุที่สีกากอล์ฟ สามารถขยายเครือข่ายในหมู่พระผู้ใหญ่ได้มาก เนื่องจาก ตัวสีกาเอง เป็นโยมอุปัฏฐากให้กับพระผู้ใหญ่ เมื่อเป็นพระผู้ใหญ่ ก็ออกงาน รับกิจนิมนต์บ่อย ก็จะไปเจอพระรูปอื่น "สีกากอล์ฟ" ก็จะเข้าไปตีสนิท ยืมเงิน มีชีวิตวนเวียนอยู่กับพระผู้ใหญ่ จึงขยายเครือข่ายได้ง่าย และมองออกว่า พระรูปไหนจะเล่นด้วยกับตน
ส่วนทัศนคติทางเพศ ที่หลายคนสงสัยว่า เหตุใดสีกามีสัมพันธ์กับพระ จึงไม่กลัวบาป อาจารย์อำนาจ อธิบายว่า เท่าที่ติดตามพฤติกรรม และติดตามบทสัมภาษณ์ ทราบว่าตอนแรก "สีกากอล์ฟ" ก็กลัวบาปเหมือนกัน แต่พระที่มีสัมพันธ์ด้วย บอกว่าเคยมีสัมพันธ์กับสีกาคนอื่นมาแล้ว จึงกล้ามีความสัมพันธ์ด้วย ยิ่งเมื่อมีสัมพันธ์แล้ว มีเงินใช้ จึงยิ่งได้ใจ เรียกว่า ได้ลิ้มรสความรัก ชดเชยปมความรู้สึกบางอย่างที่ตัวเองขาดไป และยังได้ทรัพย์สินเงินทอง ทำให้ขยายความสัมพันธ์ นำไปสู่พระรูปอื่นๆ
"ประกอบกับทัศนคติทางเพศของคนรุ่นใหม่ มองว่าเซ็กส์ไม่ได้เป็นเรื่องหวงห้ามสำหรับสามีภรรยาเท่านั้น เมื่อเคยมีสัมพันธ์กับแฟนมาแล้ว ก็ไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นได้อีก ยิ่งมีสัมพันธ์แล้วได้เงินด้วย ยิ่งคุ้มค่า ไม่ได้มองว่าผิดบาปแต่อย่างใด"
อาจารย์อำนาจ ยังฝากเตือนทิ้งท้ายว่า บาปที่พระกระทำ และเป็น “ปาราชิก” ขาดจากความเป็นพระนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องเสพเมถุน แต่ปาราชิก มี 4 ประการ เรียกว่า ปาราชิก 4 คือ
ฉะนั้นไม่อยากให้สังคมพุ่งเป้าเฉพาะเรื่องเสพเมถุน เพราะเรื่องทรัพย์ก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่กระบวนการตรวจสอบเงินวัดมีช่องโหว่เยอะ อาจทำให้พระบางรูป รอดพ้นความผิดไปได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองปาราชิกไปแล้ว จากการเอาทรัพย์ของวัด เป็นทรัพย์ของตน