svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน "แม่น้ำกก" คุยกลุ่มว้า ทำเหมืองทอง

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน แม่น้ำกก “ประเสริฐ” เชื่อ มีแนวทางหารือ "กลุ่มว้า" ทำเหมืองทอง นักวิชาการ ชี้ เหมืองตั้งอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง ระบบบำบัดอาจไม่ได้มาตรฐาน

23 พฤษภาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยภายหลังหารือกับ ดาโตะ ซรี ฮาจี ฟาดิลละห์ บิน ฮาจี ยูซฟ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านพลังงานและปฏิรูปน้ำของมาเลเซีย ว่าการหารือ ครั้งนี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่การพัฒนาลุ่มน้ำโก-ลก โดยเฉพาะการบริหารจัดการบริเวณปากแม่น้ำ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม รวมไปถึงมีการหยิบยกเรื่องการทำเอ็มโอยูเพื่อพัฒนาลุ่มน้ำโก-ลก โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันก่อนที่จะเซ็นเอ็มโอยู

ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนใน "แม่น้ำกก" ที่ผ่านมา มีการประชุมอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยได้ประสานงานให้กรมควบคุมมลพิษไปเก็บตัวอย่างน้ำ เนื่องจากข้อมูลเดิมจากการทดสอบน้ำยังไม่พบค่าที่เป็นอันตรายต่อประชาชน แต่ด้วยความกังวลจึงสั่งการให้ตรวจน้ำถี่ขึ้นเป็นสัปดาห์ละครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยเราให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำเป็นพิเศษ

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน \"แม่น้ำกก\" คุยกลุ่มว้า ทำเหมืองทอง

อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ ย้ำว่า คุณภาพน้ำยังใช้ในสาธารณูปโภคได้อยู่ ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการกำชับให้ดูแลเรื่องสัตว์น้ำที่ป่วย รวมถึงให้ดูระบบนิเวศ นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย

เมื่อถามว่า รัฐบาลไทยได้มีการพูดคุยกับรัฐบาลเมียนมา เกี่ยวกับสารปนเปื่อนในแม่น้ำแล้วหรือยัง? : นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้ประสานทางกระทรวงการต่างประเทศว่าให้มีการพูดคุยกัน แต่ในส่วนของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เตรียมการพบปะพูดคุยกันกับฝั่งรัฐบาลเมียนมา ซึ่งเราเข้าใจว่าสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งคือฝั่งเมียนมาทำเหมืองทอง และอาจจะมีการใช้สารเคมีบางอย่าง

พูดคุย "กลุ่มว้า" พื้นที่ทำเหมืองทองต้นน้ำกก

ส่วนได้มีการรายงานหรือไม่ว่า จะประสานพูดคุยกับกลุ่มว้า ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเหมืองทอง นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน 

ทั้งนี้ จะต้องประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อคุยกับกลุ่มว้าเองหรือไม่ นายประสริฐ กล่าวว่า กำลังหาวิธีพูดคุยกันอยู่ ทราบดีว่าประเทศเมียนมามีปัญหาภายใน

เมื่อถามย้ำว่า ในพื้นที่สามารถให้ทหารพูดคุยโดยตรงได้ใช่หรือไม่ ? นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องมีวิธีสื่อสารพูดคุยกันได้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อไทย จึงต้องคุยให้ได้

สำหรับเบื้องต้นจะมีแนวทางการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่พบความเสียหายหนักๆ ที่เกิดขึ้น

ส่วนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว? นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่ได้เพิกเฉย โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 27 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรุปสถานการณ์

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

ปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นตอ หยุดทำเหมืองทองบริเวณต้นน้ำ

สำหรับ "แม่น้ำกก" ถือเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีความสำคัญอีกสายหนึ่ง ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของชาวบ้านในจังหวัดเชียงรายมาอย่างยาวนาน ก่อนหน้านี้ "แม่น้ำกก" ถูกตรวจพบว่า มีการปนเปื้อนสารโลหะหนักอย่าง "สารหนู" มีค่าสูงเกินค่าเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งการปนเปื้อนสารดังกล่าวในแม่น้ำ มีต้นตอมาจากการทำเหมืองทองในพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมา 

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน \"แม่น้ำกก\" คุยกลุ่มว้า ทำเหมืองทอง

ขณะที่ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ "ครูตี๋" มองว่า ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนนี้ กระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งการอุปโภค บริโภค ประมง การเกษตร ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าวิถีชีวิตของคนริมฝั่งแม่น้ำกกในอนาคตจะเป็นอยู่อย่างไร แต่สิ่งที่หายห่วงคือ ยังมีชาวบ้านที่คิดว่าปัญหาดังกล่าวยังเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง มันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก

โดย "ครูตี๋" ยืนยันว่า ปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นตอ คือ ต้องหยุดทำเหมืองทองบริเวณต้นน้ำในประเทศเมียนมา และผู้ที่จะเข้ามาจัดการกับปัญหานี้ได้ต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ,เรื่องพรมแดน,ชีวิตประชาชน รัฐบาลต้องทำทุกวิถีทางในการแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ เพราะทุกวันที่เหมืองทองยังดำเนินการอยู่ ก็เท่ากับว่าสารพิษตกค้างในแม่น้ำกกก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน \"แม่น้ำกก\" คุยกลุ่มว้า ทำเหมืองทอง  

 

"แม่น้ำกก" เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว 

ด้าน หัวหน้าศูนย์วิชาการสนับสนุนด้านการบริหารจัดการน้ำ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.ชูโชค อายุพงศ์ ที่มองว่า การทำเหมืองบริเวณต้นน้ำกกนั้น อยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง มีการสู้รบ อาจจะทำให้ระบบบำบัดไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้มีสารพิษไหลมาตามแม่น้ำ นับว่าตอนนี้แม่น้ำกก เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว โดยรัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ไขอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งภายในประเทศ และเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา และ ประเทศจีน ในการทำเหมืองให้มีมาตรฐานสากล รวมถึง ต้องประเมินสถานการณ์ ระยะสั้น กลาง ยาว

หากวันนี้รัฐบาลไม่ทำอะไร ปล่อยปัญหาไว้ จะเหลือเพียงประชาชนที่รอรับชะตากรรมกับปัญหาที่จะตามมาในทุก ๆ ด้าน ซึ่งตอนนี้ควรจะมีการตั้งคณะทำงานระดับชาติได้แล้ว 

ส่วนการทำฝายดักตะกอน รศ.ชูโชค มองว่า ต้องทำการประเมิน ตามหลักวิชาการก่อนว่าคุ้มค่าหรือไม่ สามารถดักได้มากเพียงใด สำหรับประชาชนก็ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ใช่แค่ "แม่น้ำกก" เท่านั้น ยังมี "แม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก" ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองบริเวณต้นน้ำในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมาอีกด้วย 

นัดสรุปปัญหา สารปนเปื้อน \"แม่น้ำกก\" คุยกลุ่มว้า ทำเหมืองทอง