ญาติทยอยรับศพเหยื่อ "ตึกถล่ม" เมียคนขับเครน เผยลางก่อนเกิดเหตุ

30 มีนาคม 2568 ความคืบหน้าเหตุ ตึก สตง.ถล่ม จากเหตุ แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหาย ติดอยู่ใต้ซากตึกจำนวนมาก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งค้นหา ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตที่พบแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำมาไว้ที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ นั้น

ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมาที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิต ทยอยเดินทางมาติดต่อขอรับศพ เหยื่อตึกถล่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางนิติเวชได้จัดให้บริการแบบ one stop service ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานต่าง ๆ ในการออกเอกสารรับศพ และพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล




 

ต่อมาเวลา 11.30 น. ครอบครัว "นายมนตรี จิ้งโจ้" หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.อุบลราชธานี โดยถือเป็นศพแรกจากเหตุตึกถล่ม ที่ส่งให้แก่ครอบครัว

ภรรยานายมนตรี กล่าวว่า นายมนตรีทำงานที่นี่ได้ 2 เดือน เป็นคนขับเครน คุยครั้งสุดท้ายตอน 11 โมงเช้าวันเกิดเหตุว่า เขากำลังทำงานขับเครนอยู่ ตอน 8 โมงก็คุยเรื่องกินข้าวกัน โดยไม่มีลางก่อนเกิดเหตุ มาทราบอีกทีหลังแผ่นดินไหว ตนไม่สามารถติดต่อสามีได้ จนเห็นคลิปตอน 4 โมงเย็นและทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ที่ผ่านมาเขาเป็นเสาหลักครอบครัว

ขณะที่พี่สาวผู้ตายกล่าวว่า ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องชายที่เสียไป หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม ส่วนตัวก็เพิ่งมาทราบว่า น้องชายทำงานที่ตึกนี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาทำงานที่ภูเก็ต แล้วเข้ามาทำงานในกรุงเทพได้ประมาณ 2 เดือน หลังเหตุแผ่นดินไหว ไม่สามารถติดต่อน้องชายได้ จนมาทราบว่ามีชื่อเป็นผู้เสียชีวิต

วันที่ 2 ปฏิบัติ ค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก
 

ขณะที่บรรยากาศจุดที่อาคาร สตง.ถล่ม วันนี้เข้าสู่วันที่ 2 ปฏิบัติการค้นหา คนงานก่อสร้างทั้งชาวเมียนมา ชาวไทย ชาวกัมพูชา และ ชาวลาว เข้าไปทำงานในวันเกิดเหตุ โดยจุดที่มีการการพบสัญญาณชีพอยู่ใต้ซาก จนท.ยังเร่งช่วยต่อไป ขณะเดียวกันก็ยังมีข่าวร้ายสำหรับ ญาติที่มาเฝ้ารอ อย่างครอบครัวของ ชาวหนองคาย หลังจากที่เฝ้ารอปาฏิหาริย์ เเต่สุดท้ายก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อช่วงสายวันนี้ ทำให้ถึงขั้นทรุด ร่ำไห้ออกมา 



ก่อนหน้านี้ น้องสาวทั้ง 2 คนให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้มีปาฏิหาริย์ สำหรับทุกคน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันค้นหา และยังบอกว่าน้องชายคือเสาหลัก ที่ทำงานส่งเงินให้เเม่และน้องสาว เเต่พอทราบข่าวร้าย หัวใจของทั้ง2 คนแตกสลาย ทำอะไรไม่ถูก

ขณะครอบครัวผู้สูญหายตอนนี้ ต่างต้องพี่งสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง คุณแม่มาจากขอนแก่น มาบอกเจ้าที่ เจ้าทางขอให้เปิดทาง คุณแม่เล่าว่า ลูกชาย อายุ 20 ปี  เป็นช่างไฟ มาทำงานกับภรรยาและพ่อแม่ของภรรยา ตัวภรรยาหนีออกมาได้ แต่ทั้ง 3 ติดอยู่ด้านใน ก่อนหน้านี้แม่บอกให้เขากลับบ้าน วันที่ 10 เมษยาน เขาต้องไปหมั้นสาว เเต่เขาไม่ยอมกลับ แม่ทำใจไว้บ้าง เเต่ถ้าเขาเสียขอให้เจอ เเม่ต้องพาเขากลับ


 

สถานทูตกัมพูชา หวั่นมีแรงงานเสียชีวิตจำนวนมาก เหตุนายจ้างไม่ให้ข้อมูล
 

สำหรับปัญหาแรงงานต่างด้าว มีทั้งเมียนมา ที่ประสบปัญหาจำนวนที่ไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับกัมพูชา ที่ทีมข่าวได้คุยกับล่าม ทางสถานทูตกัมพูชา มอบหมายให้เป็นผู้ประสานงาน ในการให้ข้อมูลกับแรงงาน และทางสถานทูตให้ข้อมูลว่า ทางกัมพูชาก็ประสบปัญหาจำนวนแรงงานที่ไม่ชัดเจน และไม่ทราบชื่อ เเต่ก็ทราบว่า การก่อสร้างที่นี่จะเน้นใช้แรงงานเมียนมา

โดยนายรัตน์ ล่ามชาวกัมพูชา ระบุว่า เท่าที่ทราบ จากคนงานที่อยู่ชั้น 5 บอกว่าหนีลงมาได้ ที่นี่ไม่ค่อยรับกัมพูชา จะรับคนงานพม่าเป็นหลัก เเต่ถูกดึงตัวมาช่วย ข้อมูลไม่ชัดเจน สถานทูตห่วงว่าแรงงานเขาจะเสียชีวิติเยอะ เพราะยังไม่ทราบจำนวนคนหายที่ชัดเจน เมื่อวานมีคนมาแจ้งเพิ่ม รวม 8 คน เเต่คนที่รอดชีวิตบอกว่า คนกัมพูชาทำอยุ่ชั้น 5 ลงได้ เเต่ยังไม่พบสักคน เท่าที่ทราบ ไม่ค่อยมีกัมพูชา แต่ที่เข้ามาเพราะไซส์งานที่เร่งเข้าดึงเข้ามาช่วยงาน ตัวเลขจึงไม่ชัดเจน

ชาวบันเตียเมียนเจย กล่าวว่า ตอนนี้สถานทูตกังวลว่า แรงงานของเขา จะมีการสูญเสียมาก ส่วนตัวคิดว่า นายจ้างยังมีความกลัวอยู่ เเต่ล่าสุดนายจ้างเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นแล้ว